สายพันธุ์กัญชาที่ดีที่สุด เพื่อบรรเทาอาการปวด
Table of Contents
การใช้กัญชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้คนหันมาเสพกัญชากันมากขึ้น
งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า กัญชาสามารถบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง รวมถึงความเจ็บปวดจากความเสียหายของเส้นประสาท หรือการอักเสบต่าง ๆ ได้ และยังมีประโยชน์เพิ่มเติม คือ การลดการใช้ยาระงับปวดกลุ่ม Opioid (โอปิออยด์) และยาแก้ปวดอื่น ๆ
ประเทศไทยมีประวัติการใช้กัญชา เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดมายาวนานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดจากโรคมะเร็ง, โรคข้ออักเสบ หรืออาการบาดเจ็บทั่วไป ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากกำลังต้องการสาร Cannabinoid ทางการแพทย์ เพื่อช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น
ตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมาย ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้มากขึ้น เช่น สารสกัดจากกัญชา, ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา และดอกกัญชา ซึ่งในบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่ตัวเลือกตัวสุดท้าย
Weed Review จะนำเสนอ 7 สายพันธุ์กัญชาที่ดีที่สุด ที่ขึ้นชื่อว่ามีความสามารถในการบรรเทาอาการปวดได้ มีอะไรบ้าง ไปติดตามกัน
สายพันธุ์กัญชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
ด้านล่างนี้ คือ 7 อันดับสายพันธุ์กัญชา ที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งล้วนแต่มีส่วนผสมของสายพันธุ์ CBD และ THC แตกต่างกันออกไป
Cannabidiol (CBD) มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ยอดเยี่ยม ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ผู้คนส่วนใหญ่มักใช้ CBD เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เพราะมันไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท, ไม่ทำให้เสพติด และใช้ได้ดีในทุกปริมาณ
Tetrahydrocannabinol (THC) ก็มีประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากงานวิจัยได้แสดงให้เห็นแล้วว่า จะเข้าไปจับกับตัวรับในสมอง และส่งผลต่อการระงับความรู้สึกเจ็บปวด, ทำให้เบิกบานใจ หรือรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้คนที่กำลังประสบกับปัญหาความเจ็บปวด
1. Charlotte’s Angel CBD
สายพันธุ์ Charlotte’s Angel CBD เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ดีที่สุดตลอดกาล และเป็นสายพันธุ์ที่แนะนำสำหรับผู้ใช้งานทุกคน ที่ต้องการบรรเทาความเจ็บปวดด้วยกัญชา
ด้วยปริมาณสาร CBD เฉลี่ยอยู่ที่ 15% และ THC ในปริมาณต่ำ ทำให้สายพันธุ์นี้ให้ความรู้สึกที่สงบและผ่อนคลาย โดยไม่มีอาการทางจิต การเสพกัญชาสายพันธุ์ดังกล่าวมีผลต่อการผ่อนคลายร่างกายได้อย่างล้ำลึก ซึ่งสามารถช่วยลดความเจ็บปวด และช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Charlotte’s Angel CBD ยังอุดมไปด้วยเทอร์ปีนที่ช่วยบรรเทาอาการปวด เช่น Myrcene (ไมร์ซีน) และ Caryophyllene (คารีโอฟิลลีน) ซึ่งส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ Entourage Effect (การทำงานร่วมกันระหว่างสารสกัดหลายชนิด ซึ่งช่วยเสริมฤทธิ์ได้ดีขึ้น)
2. ACDC
ACDC เป็นสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จัก เนื่องจากมีสัดส่วนของ CBD ต่อ THC ที่น่าสนใจ ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจัดการกับความเจ็บปวด โดยระดับ CBD อยู่ที่ระหว่าง 16-25% และมี THC ไม่เกิน 1%
นี่จึงสายพันธุ์ที่มีไว้สำหรับใช้ทางการแพทย์เท่านั้น เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกคลายความเจ็บปวด โดยไม่เกิดอาการไฮมากเกินไป แต่โดยส่วนใหญ่จะเกิดสมาธิและความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งคุณสามารถสูบได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย
ACDC มักถูกแนะนำให้ใช้เพื่อรักษาอาการต่าง ๆ เช่น อาการปวดเรื้อรัง, โรคไฟโบรไมอัลเจีย, โรคข้ออักเสบ และโรคไมเกรน
3. Blueberry
หากอาการปวดเรื้อรังทำให้คุณนอนไม่หลับ ควรลองสายพันธุ์ Blueberry สักครั้ง
Blueberry เป็นสายพันธุ์กัญชาที่มีความโดดเด่นของ Indica โดยมี THC อยู่ระหว่าง 17-24% นี่เป็นสายพันธุ์ที่ทรงพลังที่จะทำให้คุณไฮได้ ดังนั้น จึงต้องใช้มันในช่วงเวลาที่เสร็จงานแล้ว เมื่อไม่ได้บริโภคสายพันธุ์ดังกล่าว จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสมอง ซึ่งเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวดได้ดี อาจทำให้พูดมากขึ้น หรือหัวเราะคิกคัก จากนั้น ความมึนเมาจะเข้าครอบงำร่างกายอย่างเต็มที่ ทำให้คุณรู้สึกตัวหนัก และผ่อนคลายแบบสุด ๆ จนแทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลย
นอกจากรสชาติที่เอร็ดอร่อยและกลิ่นที่ดีแล้ว Blueberry ยังมีเทอร์ปีนหลายชนิด เช่น Myrcene (ไมร์ซีน) และ Caryophyllene (คารีโอฟิลลีน) ซึ่งมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวด และระงับความเครียด
4. Northern Lights
หากพูดถึงสายพันธุ์กัญชาที่ระงับอาการปวดเรื้อรังได้ดีที่สุด คงจะไม่มีชื่อของ Northern Lights ไม่ได้
นี่เป็นสายพันธุ์ที่มีความโดดเด่นของ Indica และมีชื่อเสียงในด้านการบรรเทาอาการนอนไม่หลับ, แก้อาการกระตุก และระงับความเจ็บปวด ซึ่งผสมผสานระหว่างความมึนเมาและจิตใจที่ผ่อนคลายอย่างทรงพลัง และเพียงพอที่จะทำงานได้เสร็จโดยไม่เมาค้างจนเกินไป
การมี THC ตั้งแต่ 15-20% ทำให้ Northern Lights เหมาะสำหรับการใช้ในช่วงเย็นหลังจากผ่านวันอันแสนยาวนาน เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลาย และทำให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้าง
5. White Widow
อีกหนึ่งสายพันธุ์มีความโดดเด่นของ Indica ก็คือ White Widow ซึ่งคล้าย ๆ กับ Northern Lights เพราะมีเทอร์ปีนที่ช่วยลดอาการปวด เช่น Caryophyllene (คารีโอฟิลลีน) และ Myrcene (ไมร์ซีน) โดยมี THC อยู่ระหว่าง 16-20% ดังนั้น ถ้าคุณอยากไฮให้มากขึ้น ต้องเพิ่มสายพันธุ์นี้เข้าไปในสูตรของคุณ
คุณสมบัติเด่นอีกประการของดอกกัญชานี้ คือ การมีสาร Cannabinoids อื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CBD และ CBG (cannabigerol) ที่ 1-2% ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Entourage Effect และฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับความเจ็บปวด ชื่นชมในสายพันธุ์ White Widow เป็นอย่างมาก
6. Cannatonic
Cannatonic เป็นสายพันธุ์ CBD ที่ผสมกับ THC อย่างลงตัว ปริมาณ Cannabidiol อาจสูงถึง 18% ในขณะที่ THC ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทมีอยู่ประมาณ 5-8%
ด้วยอัตราส่วนระหว่าง THC ต่อ CBD ที่ยอดเยี่ยม ทำให้สายพันธุ์ Cannatonic ทำให้คุณตื่นตัวเล็กน้อย ในขณะที่มีปริมาณ Cannabinoid และเทอร์ปีนที่เหมาะต่อการใช้ทางการแพทย์ และแนะนำให้ใช้สายพันธุ์นี้สำหรับผู้ที่ชอบ CBD แต่ต้องการ THC เพียงเล็กน้อย เพื่อให้ได้ผลการรักษาอย่างเต็มที่
ดอกกัญชาสายพันธุ์นี้ ถือเป็นยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพ เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยและอาการตึงทางร่างกาย รวมถึงรักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุก, ปวดเรื้อรัง, ปวดจากการบาดเจ็บ และโรคไขข้อ
7. Gorilla Glue
Gorilla Glue ไม่ใช่สายพันธุ์สำหรับมือใหม่ แต่หากอาการปวดเรื้อรังมีความรุนแรงจนนอนไม่หลับหรือทำงานไม่ได้ อาจต้องลองใช้ Gorilla Glue
สายพันธุ์นี้มี THC ตั้งแต่ 20-28% ดังนั้น Gorilla Glue จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่เราจัดอันดับ นอกจากนี้ ยังมี Limonene (ลิโมนีน) ซึ่งมีคุณสมบัติบรรเทาอาการปวดและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
Gorilla Glue ให้ประโยชน์รอบด้านทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวดที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรม นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีความทนทานต่อฤทธิ์กัญชา เนื่องจากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
Indica กับ Sativa: วิธีเลือกดอกกัญชาที่เหมาะกับการบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง
เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่า สายพันธุ์ Indica ทำให้เรารู้สึกว่าร่างกายไฮ ในขณะที่ Sativa ช่วยกระตุ้นจิตใจได้มากกว่า
ในความเป็นจริงแล้ว มุมมองเช่นนี้ยังไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก แต่ควรเน้นการพิจารณาที่องค์ประกอบทางเคมี หรือที่เรียกว่า Chemovar Classification (การจำแนกทางเคมี) แทน
คุณควรให้ความสนใจไปที่สัดส่วนของสาร Cannabinoid เช่น CBD, THC และTerpenes เช่น Myrcene (ไมร์ซีน), Caryophyllene (คารีโอฟิลลีน) และ Limonene (ลิโมนีน) ระดับของสารต่าง ๆ ในดอกกัญชา จะเป็นตัวกำหนดว่าให้ประสบการณ์อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการช่วยบรรเทาความเจ็บปวด, ผลต่อสุขภาพจิต หรือทั้งสองอย่างผสมกัน
Weed Review ได้รวบรวมรายชื่อสายพันธุ์กัญชาชั้นนำ ที่มีสารประกอบเหล่านี้ไว้ในที่เดียวให้คุณแล้ว
หาก Northern Lights ไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดของคุณได้ ให้ลอง Blue Dream แต่หากยังไม่ได้ผล ให้ลองใช้ Bubble Gum เป็นต้น แต่ต้องมีการทดลองกันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะเจอสายพันธุ์ที่ช่วยคลายปวดตามที่ต้องการ
กัญชาช่วยแก้ปวดได้อย่างไร
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า กัญชาช่วยบรรเทาอาการปวด ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:
- ลดอาการอักเสบ
- ลดการรับรู้ความเจ็บปวด
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- ลดการใช้ยากลุ่ม Opioid
- ส่งเสริมการนอนหลับที่ดี
- ปรับอารมณ์และสุขภาพจิต
- เบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้น จำเป็นต้องมีการวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้กัญชาต่อการบรรเทาความเจ็บปวดอย่างเต็มที่
Weed Review แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากต้องการใช้กัญชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
ควรใช้กัญชาปริมาณเท่าไหร่ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
คำแนะนำที่ดีที่สุด คือ การเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย และค่อย ๆ เพิ่ม เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่สามารถกำหนดขนาดมาตรฐานเป็นกรัมหรือมิลลิกรัม สำหรับแต่ละคนจะใช้บรรเทาความเจ็บปวดได้
การค้นหาปริมาณกัญชา เพื่อบรรเทาอาการปวดที่เหมาะสม อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความอดทน, ระดับความเจ็บปวด, ผลลัพธ์ที่ต้องการ และความแรงของสายพันธุ์ ล้วนแต่มีบทบาททั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องใช้ Cannatonic ในปริมาณมาก เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่ใช้ Gorilla Glue ที่มีประสิทธิภาพเพียงไม่กี่หยด ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
หากคุณกำลังใช้ดอกกัญชาผสมในอาหาร โปรดอ่านคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับปริมาณที่รับประทานได้ เพราะการรับประทานจะทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงและยาวนานกว่าการสูบกัญชา
ผลข้างเคียงจากการใช้กัญชา เพื่อบรรเทาปวดมีอะไรบ้าง
การใช้กัญชาเพื่อบรรเทาอาการปวดในระยะยาว สามารถทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้:
- การเสพติด/การพึ่งพา
- ความทนทานต่อกัญชาสูง ซึ่งจำเป็นต้องใช้กัญชามากขึ้น เพื่อรักษาอาการป่วยให้ได้ผล
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือความระคายเคืองต่อปอด
ศึกษาผลเสียของการสูบกัญชา เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ สาร Cannabinoid ยังอาจรบกวนการทำงานของตับ ในกระบวนการดูดซึมยาได้
กัญชาอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด รวมถึงยาแก้ปวดและยากลุ่ม Opioid เช่น codeine, Percocet และ Vicodin และส่งผลต่อผลกระทบที่มีทางร่างกาย ที่เรียกว่า ปฏิกิริยาระหว่างกัญชากับยา และอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้น จึงควรใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ โดยพิจารณาร่วมกับการใช้กัญชา และโปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
บทสรุป
กัญชา ถูกใช้เป็นยาแก้ปวดมานานแล้ว และการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็สนับสนุนคำกล่าวอ้างที่ว่า กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดได้ ปัจจุบัน มีหลายสายพันธุ์กัญชาที่คุณสามารถทดลองเพื่อบรรเทาอาการปวดเรื้อรังได้ แต่สิ่งที่แนะนำในคู่มือนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น คุณควรเริ่มใช้กัญชาด้วยปริมาณที่น้อย เพื่อทดสอบว่าได้ผลเป็นอย่างไร เนื่องจากไม่มีปริมาณที่แนะนำที่เป็นมาตรฐาน การทดลองต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยจนกว่าคุณจะพบปริมาณยาที่เหมาะสมที่สุด
เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกใช้ดอกกัญชาธรรมชาติที่เป็นออร์แกนิก ปราศจากสารเคมีหรือสารปนเปื้อน นอกจากนี้ ยังสามารถไปที่คลินิกกัญชาเพื่อการแพทย์ เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และขอคำแนะนำ รวมถึงแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณ