ACDC

โปรดทราบว่าข้อมูลที่นำเสนอในหน้านี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอธิบายเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการทบทวนหรือคำแนะนำทางการแพทย์ ผลที่เกิดขึ้นจริงของสายพันธุ์กัญชาอาจแตกต่างกันออกไป กัญชาคือสิ่งที่มีโอกาสเสพติดได้ ดังนั้นจึงควรใช้กัญชาอย่างมีความรับผิดชอบ เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนใช้กัญชาร่วมกับแผนสุขภาพในปัจจุบัน

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนส์ที่โดดเด่น
Myrcene, pinene, caryophyllene, limonene
Benefits icon
ช่วยเรื่อง
การเจ็บปวด การนอนหลับ ความเครียด กล้ามเนื้อหดเกร็ง
Growing icon
ความยากในการปลูก
ยาก
Time of day icon
เวลาที่ควรใช้
ได้ทุกเวลา

CBD

13%

THC

1%

Low
.
50%
.
50%
Sativa Indica

Effects & Usage

ผ่อนคลาย
มีความสุข
มีสมาธิ
Upliftingอารมณ์ดีขึ้น

Benefits

ACDC คือสายพันธุ์ไฮบริดที่มีองค์ประกอบของสารกลุ่มแคนนาบินอยด์ที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้มีสรรพคุณที่ลงตัว สายพันธุ์นี้เกิดจากสองสายพันธุ์ที่มี CBD สูง ได้แก่ Cannatonic และ Ruderalis ด้วยเหตุนี้ ACDC จึงมี CBD มากและมี THC น้อย โดยปริมาณ CBD เฉลี่ยจะอยู่ที่ 13 ถึง 20% ในขณะที่ปริมาณ THC แทบไม่เกิน 1% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคโดยที่ไม่อยากรู้สึกมึนเมา

อาการเริ่มต้น

ด้วยความที่แทบจะไม่มี THC เลย ทำให้ AC/DC ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้กัญชาด้านสันทนาการ แต่กลับเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ใช้กัญชาทางการแพทย์ อาการเริ่มต้นของสายพันธุ์นี้จะเป็นอะไรที่อ่อนๆ ไม่รุนแรง ทำให้ผู้ใช้ยังคงมีสติดีในขณะที่ตัวกัญชาออกฤทธิ์ สายพันธุ์นี้จะทำให้รู้สึกถึงแรงกระตุ้นทางใจและความมั่นคงทางอารมณ์ ส่งผลให้มีสมาธิมากขึ้น ตามมาด้วยความผ่อนคลายทั่วทั้งร่างกายที่ไม่ว่าจะปวดเมื่อยแค่ไหนก็ต้องหายเป็นปลิดทิ้ง พร้อมรับวันดี ๆ ที่รู้สึกสดชื่นทั้งกายและใจ สายพันธุ์นี้ไม่ทำให้เกิดอาการมึนเมา ดังนั้นคุณจึงมีสมองที่ปลอดโปร่งและสามารถทำงานได้ตามปกติ ด้วยเหตุนี้ ดอก CBD จึงเป็นกัญชาอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้ทั้งวันในทุกเวลาที่ต้องการพัก

การใช้งาน

เนื่องจากสายพันธุ์นี้ผ่านการพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ร่างกายได้รับสรรพคุณต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ACDC จึงสามารถใช้งานทางการแพทย์ได้หลากหลายและอาจสามารถใช้รักษาโรคที่ร้ายแรงได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และภาวะ PTSD เป็นต้น นอกจากนี้ ACDC ยังสามารถใช้เพื่อบรรเทาอาการของโรคลมชัก หรืออาจใช้เป็นยาแก้ปวดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เนื้องอก และมะเร็ง หรืออาจใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดประสาทและกล้ามเนื้อหดเกร็งก็ได้เช่นกัน สรรพคุณด้านความผ่อนคลายจะช่วยให้คุณนอนหลับฝันดีตลอดทั้งคืน

การใช้งานที่หลากหลายของ ACDC คือสิ่งที่ชนะใจใครหลายคนจากทั่วโลก

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของ ACDC นั้นไม่ค่อยรุนแรง โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือปากและตาแห้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและความเหนื่อยล้า ด้วยความที่มีปริมาณ THC น้อยจึงไม่ค่อยพบอาการหวาดระแวงและความวิตกกังวลมากนัก เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่มีปริมาณ THC สูง

Taste & Smell

ดินหญ้า
ไม้
เผ็ดร้อน
ซิตรัส

ดอก ACDC มีขนาดเล็กและแน่นพร้อมใบสีเขียวแกมเหลืองสดใส ประดับด้วยเกสรสีส้ม เนื่องจากมี THC น้อยมากจึงทำให้ไตรโคมขึ้นน้อย สำหรับเรื่องกลิ่น ACDC มีการผสมผสานไม้และดินหญ้าจากไมร์ซีนเข้ากับกลิ่นซิตรัสเปรี้ยว ๆ จากลิโมนีน นอกจากนี้ คุณอาจได้กลิ่นของความสดชื่นจากไพนีนเล็กน้อย รสชาติเองก็เด็ดไม่แพ้กัน เพราะมีซิตรัสที่ผสมความเผ็ดร้อนแบบพริกไทยตามแบบฉบับของแคริโอฟิลลีน

Cannabis indica grown outdoor

ต้นกำเนิด

แม้ชื่อสายพันธุ์นี้จะชวนให้นึกถึงวงร็อกชื่อดัง แต่จริง ๆ แล้ว ACDC ย่อมาจาก “Alternative Cannabinoid Dietary Cannabis” ชื่อนี้ถูกตั้งโดยดร. William Courtney ผู้ซึ่งพัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมาในปี 2011 โดยหวังที่จะใช้เพื่อช่วยรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคลูปัส ว่ากันว่าเป้าหมายหลักของการสร้างสายพันธุ์นี้คือเพื่อให้ได้กัญชาที่สามารถใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ได้ เมื่อผสมผสาน Cannabis Ruderalis และ Cannatonic สองสายพันธุ์ที่มี CBD สูง จึงเกิดเป็นกัญชาที่ไม่มึนเมาและเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ใช้งานกัญชาทางการแพทย์จนถึงทุกวันนี้

สภาพการเจริญเติบโต

การปลูก ACDC จะต้องใช้ทักษะและเวลาพอสมควร ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำให้กับผู้ที่มีประสบการณ์แล้ว

สายพันธุ์นี้ต้านโรคและศัตรูพืชได้ไม่ดีนัก จึงทำให้ต้องมีการสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังต้องใช้อาหารแร่ธาตุ ได้แก่ แคลเซียมและแมกนีเซียม รวมถึงการวางฐานเพื่อให้ดอกกัญชาสามารถเติบโตและขยายกิ่งก้านได้อย่างแข็งแรง หากต้องการควบคุมปัจจัยเหล่านี้ คุณควรเลือกปลูกในร่ม

หากคุณตัดสินใจที่จะลองปลูกสายพันธุ์ CBD นี้ ระยะออกดอกจะอยู่ที่ 8 ถึง 10 สัปดาห์ สูงได้ไม่เกิน 1.2 ม. ให้ผลผลิตสูงสุด 400 กรัมต่อตารางเมตรเมื่อปลูกในร่ม และสูงสุด 450 กรัมเมื่อปลูกกลางแจ้ง

สำหรับสายพันธุ์อื่นที่ปลูกยาก เราขอแนะนำ Chemdawg or Trainwreck.