Trainwreck

โปรดทราบว่าข้อมูลที่นำเสนอในหน้านี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอธิบายเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการทบทวนหรือคำแนะนำทางการแพทย์ โปรดทราบว่าผลที่เกิดขึ้นจริงและลักษณะเฉพาะตัวของสายพันธุ์กัญชาอาจแตกต่างกันออกไป กัญชาคือสิ่งที่มีโอกาสเสพติดได้ ดังนั้นจึงควรใช้กัญชาอย่างมีความรับผิดชอบ เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนใช้กัญชาร่วมกับแผนสุขภาพในปัจจุบัน

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนส์ที่โดดเด่น
Terpinolene, limonene, pinene
Benefits icon
ช่วยเรื่อง
อาการปวด ความเครียด ภาวะซึมเศร้า
Growing icon
ความยากในการปลูก
ปานกลาง
Time of day icon
เวลาที่ควรใช้
กลางวัน/เย็น

CBD

1%

Low

THC

18%

Medium
.
65%
.
35%
Sativa Indica

Effects & Usage

เคลิบเคลิ้ม
Upliftingอารมณ์ดีขึ้น
มีความคิดสร้างสรรค์
กระฉับกระเฉง

Benefits

Trainwreck เกิดจากการผสมผสานสามสายพันธุ์แลนด์เรซเข้าด้วยกัน โดยประกอบด้วยซาติวาสองสายพันธุ์และอินดิกาอีกหนึ่งสายพันธุ์ ด้วยความที่ Trainwreck เน้นไปทางซาติวามากกว่า ทำให้สมองเกิดความเคลิบเคลิ้ม มีความสุข และมีความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น แต่ก็ยังมีลักษณะของอินดิกาอยู่ในเรื่องของความผ่อนคลายทางร่างกายที่เหมาะสำหรับการใช้หลังเลิกงาน สายพันธุ์นี้มี CBG อยู่ที่ปริมาณ 1%

Trainwreck มีปริมาณ THC เฉลี่ยอยู่ที่ 17% ถือเป็นตัวช่วยบรรเทาอาการปวดและทำให้อารมณ์ดีขึ้นแบบรอบด้าน สรรพคุณที่สมดุลเหล่านี้เองที่ทำให้ผู้สูบกัญชาสายการแพทย์และสายผ่อนคลายต่างยกให้ Trainwreck เป็นสายพันธุ์โปรดมาอย่างยาวนาน

อาการเริ่มต้น

แม้ชื่อของ Trainwreck อาจชวนให้นึกถึงรถไฟที่มาชนกันในสมองของคุณ แต่สายพันธุ์ไฮบริดนี้กลับให้ผลในรูปแบบที่สมดุลมากๆ

ในช่วงแรก ฤทธิ์ของซาติวาจะเข้ามาก่อนโดยทำให้เรารู้สึกเคลิ้มและมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งความสามารถในการทำให้อารมณ์ดีนั้นมาจากเทอร์ปีนส์ตัวหนึ่งใน Trainwreck ที่มีชื่อว่าเทอร์ปิโลนีน

ภายในเวลาไม่นาน ผลของอินดิกาก็เริ่มเข้ามารับช่วงต่อ โดยอาการปวดจะหายไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายของคุณจะเข้าสู่ช่วงผ่อนคลายแบบเต็มที่และรู้สึกไม่อยากลุกไปไหน ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการใช้ในช่วงเที่ยงในวันหยุดสุดสัปดาห์ ช่วงเย็นเวลาชิลกับเพื่อน หรือหลังเลิกงานที่คุณต้องการปลดปล่อยความเครียด

คุณอาจลอง Pineapple Express หรือ Jack Herer เพื่อให้เห็นผลแบบเดียวกันที่ให้พลังงานมากขึ้น โดยที่คุณยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

การใช้งาน

ผู้ใช้กัญชาทางการแพทย์ชื่นชอบ Trainwreck เนื่องจากความสามารถในการบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ภาวะข้ออักเสบ และไมเกรน พร้อมทั้งยังช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย ช่วยเรื่องกล้ามเนื้อหดเกร็งได้ดี และสุดท้ายคือผลทางด้านอารมณ์ที่ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม Trainwreck อาจทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล จำเป็นต้องมีการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต เริ่มใช้ในปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้นในทีหลัง

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของ Trainwreck ไม่ได้รุนแรงมากนัก เช่น ความหวาดระแวง การวิงเวียนศีรษะ ก่อให้เกิดอาการมึนงง รวมถึงอาการตาแห้งที่พบในผู้ใช้บางราย โปรดใช้กัญชาอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

ด้วยคุณสมบัติในการผ่อนคลายและกล่อมประสาทของ Trainwreck ทำให้เหมาะสำหรับการสูบในช่วงกลางวัน/เย็นมากที่สุด

Taste & Smell

มะนาว
ซิตรัส
ต้นสน
ดินหญ้า

Trainwreck มีดอกสีเขียวอ่อนลำต้นยาวตามปกติทั่วไป แต่กลิ่นและรสชาตินั้นไม่ธรรมดาเลย กลิ่นต้นสนสดที่แฝงมาด้วยมะนาวและความเผ็ดร้อนจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี โดยกลิ่นของ Trainwreck แรงมากพอที่จะได้กลิ่นในระยะไกล โปรดระวังเรื่องนี้ให้ดีหากคุณไม่อยากให้คนอื่นได้กลิ่น

รสชาติของสายพันธุ์นี้มีความซับซ้อนไม่แพ้กัน ด้วยรสต้นสนและดินหญ้าที่เด่นชัด ตามมาด้วยซิตรัสสดและเครื่องเทศที่ติดปากคุณหลังสูบ

Cannabis sativa grown outdoor

ต้นกำเนิด

Trainwreck ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1970 ในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือใน Emerald Triangle จากสามสายพันธุ์แลนด์เรซ ได้แก่ ซาติวาเม็กซิกัน ซาติวาไทย และอินดิกาอัฟกานิสถาน เกิดเป็นสายพันธุ์ไฮบริดที่มีอัตราส่วนซาติวาต่ออินดิกา 2:1

สมมติฐานเรื่องชื่อที่เป็นไปได้ที่สุดคืออุบัติเหตุรถไฟที่เกิดขึ้นใกล้สวนกัญชา ทำให้ผู้ปลูกต้องรีบเก็บพืชกัญชาอย่างรวดเร็ว

สภาพการเจริญเติบโต

Trainwreck ใช้เวลาประมาณ 8 ถึง 10 สัปดาห์ในการออกดอก มีความต้านทานต่อเชื้อรา น้ำค้าง และโรคต่างๆ ของพืช สามารถปลูกได้ทั้งในร่มและกลางแจ้งขอแค่มีการป้องกันไม่ให้โดนฝน อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของการปลูก Trainwreck คือเรื่องความสูงของลำต้น แม้ว่าค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.8-2.2 เมตร แต่มีบางครั้งที่อาจสูงได้ถึง 4 เมตร ผู้ปลูกในร่มจำเป็นต้องตัดแต่งเพื่อไม่ให้ลำต้นโดนเผาไหม้จากแหล่งกำเนิดแสง

หากปลูกได้สำเร็จ คุณจะได้รับผลิตอยู่ระหว่าง 400-500 กรัมต่อตารางเมตรเมื่อปลูกในร่ม และสูงสุด 700 กรัมเมื่อปลูกกลางแจ้ง