Wild Thailand
การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใหห้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
Quick info
CBD
1%
THC
15%
Effects & Usage
Benefits
Wild Thailand (หรือเรียกอีกอย่างว่า Wild Thai) เป็นลูกหลานของสายพันธุ์พื้นเมืองของไทย ซึ่ง sativa บริสุทธิ์นี้มีชื่อเสียงในด้านการกระตุ้นให้เกิดความร่าเริง มีพลัง และจิตใจแจ่มใส ปริมาณ THC แตกต่างกันไปอย่างมากขึ้นอยู่กับฟีโนไทป์ ตั้งแต่ระดับต่ำเพียง 9% ไปจนถึงสูง 23% อย่างไรก็ตาม ยังมี THC-V ในปริมาณมาก โดยอยู่ที่ 4% ดังนั้นจึงแทบจะแน่ใจได้ว่าทุกคนยังสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อยู่
อาการเริ่มต้น
เอฟเฟกต์ที่ได้ของ Wild Thailand นั้นน่าหลงใหลราวกับพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาด ในระยะแรกจะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ทำให้จิตใจสว่างไสวและปลุกให้ตื่น การยกระดับสมอง ความคิดก็ชัดเจนขึ้น ความธรรมดาก็ดูไม่ธรรมดา การรับรู้ที่เกิดขึ้นใหม่และความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเข้าครอบงำจิตใจ ทำให้สายพันธุ์นี้กลายเป็นพันธมิตรสำหรับศิลปิน นักคิด และคนช่างฝัน เนื่องจากมีปริมาณ THC-V สูง ทำให้มีความชัดเจน ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และแรงบันดาลใจ ไม่มีสายพันธุ์ใดที่จะดีไปกว่าในการจัดการกับรายการสิ่งที่ต้องทำ ทำความสะอาดบ้าน หรือออกกำลังกาย
ความรู้สึกซ่าอันน่ารื่นรมย์แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในขณะที่กำลังล่องลอยไปกับความไฮ และกระตุ้นมันให้ไกลขึ้น ผู้ใช้หลายคนระบุงานว่ารู้สึกถูกกระตุ้นจากสายพันธุ์นี้ ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟกต์ในการแบ่งปันกับคนที่คุณรัก
ผู้ชื่นชอบดอกกัญชาธรรมชาติ เชื่อว่าจะต้องชอบ Acapulco Gold หรือ Afghan Kush นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ลองดูคอลเลกชันดอกกัญชาของเรา ที่ที่คุณสามารถพบลูกหลานสายพันธุ์แท้ได้มากขึ้น
การใช้
ด้วยส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ Wild Thailand คุณสมบัติการรักษาที่ค่อนข้างแตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่น ๆ มี THC-V สูง (ประมาณ 4%) ซึ่งเป็นสารแคนนาบินอยด์ที่ทำหน้าที่เป็นยาระงับความอยากอาหารและอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้น “กัญชาลดน้ำหนัก” นี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่เป็นโรคเบาหวาน เช่นเดียวกับผู้ที่พยายามควบคุมการบริโภคอาหาร เพราะจะไม่ทำให้เกิดการอยากอาหารแต่อย่างใด
THC-V ยังอาจช่วยลดความเครียดและอาการตื่นตระหนก ซึ่งเมื่อรวมกับไมอาร์ซีน (Myrcene) ที่ให้ความสงบแล้ว สามารถช่วยให้บุคคลที่กำลังดิ้นรนกับความผิดปกติด้านสุขภาพจิตได้รับการปลอบใจอีกด้วย
สุดท้ายนี้ สายพันธุ์นี้มีสารเทอร์ปีนที่ต้านการอักเสบอย่างโอซิมีน (Omicene) และไพนีน (Pinene) สูง รวมถึงสาร CBG (1%) ซึ่งอาจลดการอักเสบและความเจ็บปวด ตั้งแต่อาการปวดหัวและความตึงของกล้ามเนื้อ ไปจนถึงอาการปวดเรื้อรัง รวมถึงอาการปวดเรื้อรังทั่วร่างกาย (Fibromyalgia)
ผลข้างเคียง
sativa ที่มีศักยภาพนี้ แม้จะเป็นทางเลือกตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นสายพันธุ์ที่ทำให้ตื่นตัวได้มากและบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ วิตกกังวล และรู้สึกหวาดระแวงเล็กน้อย นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะมีอาการเหล่านี้อยู่แล้วและผู้ที่มีความทนทานต่อ THC ต่ำ เพื่อให้การเดินทางราบรื่น อย่าลืมฝึกการบริโภคอย่างมีรับผิดชอบ
เช่นเดียวกับกัญชาทุกสายพันธุ์ อาจพบผลข้างเคียง ได้แก่ อาการปากและตาแห้งเล็กน้อย
Taste & Smell
Wild Thai มีดอกตูมสีเขียวนีออนขนาดใหญ่และมีขนสีส้มยาวทำให้ดอกฟู
กลิ่นที่อ่อนโยนและเป็นธรรมชาตินำคุณไปสู่ป่าที่สวยงาม โดยส่วนใหญ่มีฐานเป็นดินผสมกับชั้นกลิ่นหอมหวานของเบอร์รี กลิ่นสมุนไพรสด และไม้สน ช่วยเสริมรสชาติได้อย่างลงตัว
รสชาติผสมผสานกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ให้รสชาติหวานของเบอร์รี เมื่อสูดหายใจเข้า และปิดท้ายด้วยรสที่ค้างอยู่ในคอของไม้ ซึ่งจะคงอยู่นานหลังจากที่คุณสูบเสร็จแล้ว
ต้นกำเนิด
ทุกสายพันธุ์มีเรื่องราว และเรื่องราวของ Wild Thailand มีรากฐานมาจากหมู่เกาะช้าง สายพันธุ์นี้เป็นลูกหลานที่น่าภาคภูมิใจของ Thai landrace ที่มีชื่อเสียง โดยบางแหล่งอ้างว่ามีการผสมข้ามพันธุ์กับสายพันธุ์ Ruderalis เช่นกัน
World of Seeds ทำให้สายพันธุ์นี้เป็นที่นิยม และต่างจากพันธุ์ลูกผสมที่เราพบบ่อยในปัจจุบัน Wild Thailand แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงโดยตรงกับพืชกัญชาแบบดั้งเดิมที่เติบโตในธรรมชาติ
การเจริญเติบโต
เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่มาจากประเทศไทย เพราะฉะนั้นมันดีที่สุดแล้วที่จะปลูกสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย! เมล็ดพันธุ์ก็มีพร้อม เพื่อให้กระบวนการเพาะปลูกราบรื่น ด้วยรากพันธุ์ท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง Wild Thailand จึงมีความทนทานต่อโรคพืชทุกชนิดตามธรรมชาติ
ภายใน 9 ถึง 10 สัปดาห์ ก็จะพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว สามารถปลูกในบ้านได้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น (550-650 กรัมต่อตารางเมตร) แต่ถ้าจะเพาะปลูกกลางแจ้งขอให้เป็นทางเลือกจะดีกว่า (โดยให้ปริมาณ 250-600 กรัมต่อต้น) แต่ระวังว่าสายพันธุ์ sativa นี้ สามารถสูงได้ถึง 3 เมตร และอาจซ่อนได้ยาก