Mango Haze

การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนที่โดดเด่น
Myrcene, Limonene, Pinene
Benefits icon
ช่วยในเรื่อง
ความวิตกกังวล, ความเครียด, ความหดหู่, ความเหนื่อยล้า
Growing icon
ความง่ายในการเจริญเติบโต
ยาก
Time of day icon
ช่วงเวลาการใช้
กลางวัน

CBD

1%

Low

THC

18%

Medium
.
50%
.
50%
Sativa Indica

Effects & Usage

กระฉับกระเฉง
Upliftingเบิกบานขึ้น
มีความคิดสร้างสรรค์
คุยเก่ง

Benefits

Mango Haze เป็นสายพันธุ์ผสมที่สมดุลระหว่าง Sativa และ Indica ซึ่งขึ้นชื่อด้านความสุขและให้พลังสูง ด้วยระดับ THC ที่อยู่ระหว่าง 15-23% ทำให้ผู้ใช้สายพันธุ์นี้รู้สึกมีพลัง และมีแรงบันดาลใจที่สร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายทางร่างกายที่อ่อนโยน สายพันธุ์นี้มีพันธุกรรมของสายพันธุ์คลาสสิก 3 สายพันธุ์ ได้แก่ Northern Lights #5, Skunk และ Haze ดังนั้น คุณจึงสามารถคาดหวังได้ถึงการผสมผสานของผลที่ได้รับที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ

อาการเริ่มต้น

กลิ่นหอมของ Mango Haze ค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และเป็นกลิ่นหอมที่คืบคลานออกมาอย่างละเอียดอ่อน จนสร้างประสบการณ์ที่มีพลังและเพิ่มความเบิกบานใจ เมื่อสะสมจนถึงระดับหนึ่ง จะทำให้เกิดเป็นพลังที่สูงขึ้นอย่างที่คุณต้องการ

Mango Haze ไม่ได้ทำให้เกิดความเกียจคร้านตามแบบของสายพันธุ์ Indica แต่กลับเติมพลังให้ช่างพูดและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้ดี Mango Haze จึงเหมาะสำหรับช่วงเวลาแห่งการระดมสมอง, การอยู่กับตัวเอง หรือเวลาที่ต้องการทำสิ่งใด ๆ ให้สำเร็จ ทั้งการล้างจาน, ซักผ้า หรืองานบ้านใด ๆ ก็ตาม ที่คุณเลื่อนออกไปหลายวันหรือหลายสัปดาห์

Mango Haze ยังเป็นสายพันธุ์ Wake & Bake ที่ยอดเยี่ยมในตอนเช้าอีกด้วย ผลที่ได้รับจะช่วยเติมพลังและช่วยให้คุณรับมือกับความรับผิดชอบในแต่ละวันได้ดี หรือช่วยกำจัดอุปสรรคทางจิตใจ ที่ขัดขวางประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้ด้วย

สายพันธุ์ผสมที่สมดุลจะแสดงลักษณะของ Sativa อยู่ได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนที่จะเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณใช้งาน Mango Haze มากเกินไป และช่วยให้มีช่วงเวลาผ่อนคลาย เพื่อไตร่ตรองสิ่งที่คุณทำสำเร็จไปแล้ว

การใช้

ในทางการแพทย์ มักแนะนำให้ใช้สายพันธุ์ Mango Haze เพื่อบรรเทาความเครียด, อาการซึมเศร้าขั้นต้น, ความเจ็บปวด และความเหนื่อยล้า เมื่อพิจารณาถึงระดับ THC ที่มีในระดับปานกลาง ทำให้ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า สายพันธุ์นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพจิตของตนเองได้ ลักษณะที่ทำให้เกิดความเบิกบานใจ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังต่อสู้กับความผิดปกติทางอารมณ์ ส่วนในทางร่างกาย ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า Mango Haze สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง, ปวดศีรษะ และอาการกล้ามเนื้อได้ โดยไม่มีผลต่อการระงับประสาท

ผลข้างเคียง

แม้ว่า Mango Haze จะได้รับการยกย่องในด้านคุณประโยชน์ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น บางคนอาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ, ปากแห้ง หรือตาแห้ง ซึ่งเกิดขึ้นเช่นเดียวกับสายพันธุ์กัญชาอื่น ๆ และการใช้ในปริมาณที่สูง อาจนำไปสู่ความวิตกกังวลหรือหวาดระแวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ไวต่อ THC

Taste & Smell

มะม่วง
ผลไม้
ซิตรัส
ต้นสน
ดิน

กลิ่นหอมของมะม่วงและซิตรัสที่เข้มข้น พร้อมด้วยอันเดอร์โทนที่เผ็ดร้อน เป็นข้อพิสูจน์ถึงการมีส่วนผสมของสายพันธุ์ที่หลากหลาย รสชาติที่สะท้อนออกมาผ่านทางการดมกลิ่น เป็นการผสมผสานระหว่างผลไม้เมืองร้อนอันแสนหวานกับกลิ่นดิน และทิ้งความหวานอันน่ารื่นรมย์เอาไว้

Mango Haze จึงถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ชวนให้หลงใหลในทุกประสาทสัมผัส ดอกสีเขียวของมันมีขนาดใหญ่และยาว มีเกสรตัวเมียสีเหลืองและสีส้ม และปกคลุมด้วยไตรโคมสีทองแวววาว

Cannabis sativa grown outdoor

ต้นกำเนิด

ต้นกำเนิดของ Mango Haze ถูกเพาะพันธุ์โดย Mr. Nice Seeds ที่มีชื่อเสียงในประเทศเนเธอร์แลนด์ สายพันธุ์นี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง Northern Lights #5, Skunk และ Haze ซึ่ง Mr. Nice Seeds ยังได้มอบของขวัญให้กับโลกใบนี้ ด้วยสายพันธุ์คลาสสิกอื่น ๆ เช่น  White Widow และ Super Silver Haze

สายพันธุ์พ่อแม่แต่ละสายพันธุ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่อาการเมาราวกับความฝันของ Haze ไปจนถึงความแข็งแกร่งของ Skunk และพลังของ Northern Lights การรวมกันของ 3 สายพันธุ์ทำให้การเพาะปลูกต้องอาศัยความระมัดระวัง และการให้ความสำคัญต่อความหลากหลายของกัญชา

การเจริญเติบโต

Mango Haze ต้องการความใส่ใจและความอดทนจากผู้ปลูก โดยมีระยะเวลาการออกดอก 8-11 สัปดาห์ ทั้งนี้ Mango Haze มีกลิ่นค่อนข้างฉุน ดังนั้น ผู้ปลูกในร่มจึงควรคำนึงถึงการระบายอากาศที่เหมาะสม

ส่วนการปลูกกลางแจ้งต้องการสภาพอากาศแบบกึ่งชื้น และมีอากาศที่อบอุ่น จึงจะเจริญเติบโตได้อย่างดี ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงสายพันธุ์ Sativa อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพืชชนิดนี้จะเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเติบโตในสภาพอากาศของประเทศไทย

ผลผลิตภายใต้การปลูกในสภาวะที่เหมาะสม จะอยู่ตั้งแต่ 450 – 550 กรัมต่อตารางเมตรเมื่อปลูกในอาคาร และการปลูกกลางแจ้งจะให้ผลผลิตที่สูงกว่ามาก