Candyland

การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนที่โดดเด่น
Caryophyllene, Limonene, Humulene
Benefits icon
ช่วยในเรื่อง
ความเครียด, ภาวะซึมเศร้า, ความเจ็บปวด
Growing icon
ความง่ายในการเจริญเติบโต
ง่าย
Time of day icon
ช่วงเวลาการใช้
กลางวัน/บ่าย

CBD

1%

Low

THC

20%

High
.
70%
.
30%
Sativa Indica

Effects & Usage

เพิ่มพลังงาน
Upliftingเบิกบานขึ้น
ผ่อนคลาย

Benefits

Candyland (หรือที่เรียกกันว่า “Kandyland”) เป็นลูกผสมที่มี sativa เด่น โดยมีระดับ THC ตั้งแต่ 16-24% สายพันธุ์นี้ได้เข้าไปนั่งในหัวใจของสาวกสายเขียวหลาย ๆ คนด้วยการผสมผสานที่น่าหลงใหลของรสชาติที่หอมหวานและความเมาที่เติมพลังอันน่ารื่นรมย์ผนวกกับการผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน นอกจากจะมีความกลมกล่อมแล้ว ในส่วนของสายพันธุ์ก็เลิศไม่แพ้กันเลยกับพ่อแม่พันธุ์อย่าง Granddaddy Purple และ Bay Platinum Cookies ที่มีชื่อเสียงทั้งคู่

Onset

ผลที่ได้ของ Candyland จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มต้นด้วยคลื่นแห่งความสุขที่พัดผ่าน ทำให้จิตใจเบิกบานและปลอดโปร่ง รู้สึกเหมือนจิตใจได้รับการปัดฝุ่นจากความกังวลและความเครียดด้วยพลังงานที่ให้การฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เอฟเฟกต์เหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์หรือต้องการแรงบันดาลใจในการทำงาน เมื่อมันเริ่มออกฤทธิ์ ผลของ indica จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความเฉื่อยหรืออาการนอนนิ่งที่เตียง แต่จะยังคงตื่นตัวเหมือนก่อนบริโภค ไม่มีความตึงเครียดมากระทบจิตใจหรือร่างกายของคุณ

ด้วยเหตุนี้เอง Candyland จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเพิ่มพลังงานและเพิ่มสมาธิ (wake and bake) สำหรับผู้ที่ต้องการแรงผลักดันเล็กน้อยในตอนเช้า นอกจากนี้ยังเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสังคมในเรื่องการยกระดับความสุข ส่งผลทำให้ทำงานได้สนุกมากขึ้น

การใช้

ส่วนประกอบของ Candyland ส่งผลให้ใช้เป็นการรักษาที่มีคุณค่าสำหรับอาการต่าง ๆ ได้ ประการแรก ใช้เพื่อการรักษาความเครียดที่ดีเยี่ยมและสามารถบรรเทาอาการความผิดปกติทางอารมณ์, ความวิตกกังวล ฯลฯ ด้วยสารต้านการอักเสบของเทอร์ปีนอย่าง caryophyllene และ humulene ที่มีในปริมาณสูง สายพันธุ์นี้จึงช่วยบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ได้อีก เช่น ไมเกรน, ปวดข้อ, มีประจำเดือน หรือตะคริว สุดท้าย ด้วยคุณสมบัติของ Limonene จะทำให้เบิกบานขึ้นและมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ สายพันธุ์นี้สามารถใช้ในการต่อสู้กับความเหนื่อยล้าเรื้อรังหรือความเหนื่อยล้าที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพจิตบางอย่างอีกด้วย

ผลข้างเคียง

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว Candyland จะมีความอดทนได้ดี แต่บางรายอาจพบผลข้างเคียงทั่วไป เช่น ปากแห้ง, ตาแห้ง และภาวะขาดน้ำเล็กน้อย นอกจากนี้ การบริโภคสายพันธุ์นี้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจไปกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหวาดระแวงหรือวิตกกังวลได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย ๆ ก่อน และค่อย ๆ เพิ่มตามความจำเป็น

Taste & Smell

Candy
Earthy
Piney

ด้วยชื่ออย่าง Candyland ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความหอมของสายพันธุ์นี้ช่างน่ารื่นรมย์และให้ความสนุกสนาน

กลิ่นของมันคือ การผสมผสานของต้นสน, เบอร์รี่ และขนมหวานที่เย้ายวนใจ รสชาติสะท้อนถึงกลิ่นหอมนี้ มาจากดิน, เบอร์รี่ และต้นสนที่ผสมผสานกับความหวานที่จะทำให้คุณนึกถึงคุกกี้อบสดใหม่ในถาด รสชาติอันน่ารื่นรมย์นี้มักจะติดค้างอยู่ที่ริมฝีปาก ทำให้เกิดประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่น่าอัศจรรย์ ดอกตูมมักจะเป็นสีเขียวเข้มและหนาแน่น แต่บางครั้งก็เผยให้เห็นเฉดสีม่วงที่สวยงามได้เช่นกัน

ใครที่กำลังมองหากสายพันธุ์ที่คล้ายกับคุกกี้/ลูกกวาด เพิ่มเติม ให้ลองใช้ GSC หรือ Runtz ทั้งนี้ยังสามารถดูดอกกัญชาที่มีรสชาติอร่อยกว่าได้อีกด้วย

Cannabis sativa grown outdoor

ต้นกำเนิด

Candyland มีต้นกำเนิดที่น่าสนใจ สายพันธุ์นี้ได้รับการเพาะปลูกครั้งแรกโดยกลุ่ม San Francisco Bay Area ของ Ken Estes ผู้เพาะพันธุ์ได้รับการย่องยกนี้ใช้หนึ่งในสายพันธุ์ของเขาคือ Granddaddy Purple และผสมกับ Bay Platinum Cookies ซึ่งมีต้นกำเนิดใน GSC การผสมผสานนี้ทำให้เกิด Candyland ที่น่ารื่นรมย์และน่าพึงพอใจ และได้รับการชื่นชมอย่างรวดเร็วในวงการกัญชาโดยได้รับรางวัลจากงาน KushCon 2012 และ ERRL Cup 2018 ในแอริโซนา

การเจริญเติบโต

การเติบโตของ Candyland อาจดูเป็นเรื่องง่าย สายพันธุ์นี้มีความยืดหยุ่นต่อเชื้อราและแม้กับโรคที่พบบ่อย ทำให้มีการบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ เป็นกัญชาที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตทั้งในร่มและกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม มันชอบอากาศที่อบอุ่นและแห้งในที่กลางแจ้ง เมื่อเติบโตขึ้น มันก็ต้องการพื้นที่ที่มากขึ้นเพื่อรองรับการขยาย ควรมีการตัดแต่งกิ่งและพยุงกิ่งไว้เล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรับน้ำหนักของดอกที่หนักและหนาแน่นได้

Candyland มีระยะเวลาการออกดอกประมาณ 8-9 สัปดาห์ ให้ผลผลิตประมาณ 400 กรัม ต่อตารางเมตรในที่ร่ม และ 1,000 กรัม ต่อต้น หากปลูกกลางแจ้ง