Bubba Kush

การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

ข้อมูลเฉพาะ

Terpenes icon
เทอร์ปีนที่โดดเด่น
Caryophyllene, Limonene, Terpinolene
Benefits icon
ช่วยในเรื่อง
นอนไม่หลับ, ความเครียด, อาการปวด
Growing icon
ความง่ายในการเจริญเติบโต
ง่าย
Time of day icon
หัวค่ำ
ช่วงเวลาการใช้

CBD

1%

Low

THC

18%

Medium
.
20%
.
80%
Sativa Indica

Effects & Usage

มีความสุข
ผ่อนคลาย
ง่วงนอน

สรรพคุณ

Bubba Kush (หรือที่เรียกว่า “BK,” “Bubba,” และ “Bubba OG Kush”) เป็นสายพันธุ์ที่มี Indica ส่วนเป็นใหญ่ มีระดับ THC สูงปานกลางที่ 17-22% ในฐานะที่เป็นลูกหลานของ OG Kush มันมอบความสุข ความผ่อนคลายอย่างล้ำลึก ให้รสชาติที่ประณีตซึ่งเป็นเสน่ห์ของสายพันธุ์นี้ สายพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 1990 และได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญยังคงเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน

อาการเริ่มต้น

ผลที่ได้ของ Bubba Kush นั้นอ่อนโยนแต่ว่ารวดเร็ว คุณจะรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมอันอบอุ่นมีความรู้สึกดี ๆ และบรรยากาศดี ๆ ความเครียดและความกังวลทั้งหมดจะละลายหายไป ในขณะเดียวกัน การผ่อนคลายร่างกายอย่างถึงขีดสุดจะเข้ามาแทนที่ คุณจะมีความสุขด้วยการมองโลกในแง่ดีที่เพิ่งค้นพบและมุมมองที่ดีต่อชีวิต แม้ว่าจะไม่ได้กระตุ้นความคิดใด ๆ และไม่ได้ปรับปรุงกระบวนการทำงานของคุณมากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้สมองของคุณฟุ้งซ่าน คุณยังคงตื่นตัวและทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่ใช้มีความสำคัญอย่างยิ่งหากคุณใช้ Bubba Kush ในปริมาณมาก อาจทำให้ง่วงนอนและหลับในได้ คุณสามารถปรับปริมาณได้ตามต้องการขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการ สายพันธุ์นี้ใช้ได้ผลดีที่สุดในวันพักผ่อนช่วงบ่าย สบาย ๆ พบปะสังสรรค์กับเพื่อนสนิท รวมถึงในวันที่คุณกำลังมองหาความผ่อนคลายหลังจากที่เครียดมาทั้งวัน

หากคุณชื่นชอบอ้อมกอดอันเงียบสงบของ Bubba Kush คุณอาจชอบเอฟเฟกต์ของ Granddaddy Purple หรือ Northern Lights ด้วยเช่นกัน

การใช้

Bubba Kush ไม่ได้เป็นเพียงความสุขทางประสาทสัมผัสเท่านั้น แต่ยังเป็นยารักษาโรคที่ทรงพลังอีกด้วย มีสรรพคุณในการระงับปวดและต้านการอักเสบ สามารถทำสิ่งมหัศจรรย์สำหรับสภาวะที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดได้ อาทิ ปวดกล้ามเนื้อ, ข้ออักเสบ, ไมเกรน และอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ การผ่อนคลายที่ได้รับยังสามารถช่วยคลายความเครียด และช่วยผู้ที่มีปัญหาวิตกกังวลและนอนไม่หลับได้อีกด้วย ทำให้คุณได้พักผ่อนและหลับสนิท นอกจากนี้ การค่อย ๆ ยกระดับอารมณ์ที่อ่อนโยน สามารถบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ชั่วคราว

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงทั่วไปของ Bubba Kush นั้นไม่รุนแรง อาจมีแค่อาการปากคอแห้ง, ตาแห้ง และภาวะขาดน้ำเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ, หวาดระแวง หรือวิตกกังวลเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ Bubba Kush อย่างมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีความทนทานต่อ THC ต่ำหรือผู้ที่มีความวิตกกังวลอยู่แล้ว

รสชาติและกลิ่น

เผ็ดร้อน
กลิ่นดิน
กลิ่นไม้

Bubba Kush เป็นสายพันธุ์ที่ดึงดูดสายตาด้วยดอกตูมสีเขียวเข้มที่หนาแน่นซึ่งแสดงถึงการปัดฝุ่นของไตรโครมที่เหนียวเหนอะหนะและสีม่วงที่อุดมไปด้วยกลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมกับกลิ่นดินหวานที่เทอร์ปิโนลีนมอบให้ ปิดท้ายกันด้วยกลิ่นกาแฟและกลิ่นถั่วอ่อน ๆ ขณะที่สูบ กลิ่นของ Bubba Kush จะเปลี่ยนไปเป็นกลิ่นเผ็ดและฉุน ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของสายพันธุ์ Kush เลยทีเดียว ควันจะหนาแน่นและหนักหน่วงในปอด ทำให้ได้รสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตั้งแต่ความชุ่มฉ่ำของดินไปจนถึงกลิ่นคาร์โยฟิลลีนที่หอมกรุ่น รวมถึงรสชาติกาแฟช็อกโกแลตที่สังเกตได้ชัดเจน

หากคุณต้องการค้นหาสายพันธุ์ที่มีรสชาติดีขึ้นเช่น BK คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขาได้ที่นี่

Cannabis indica grown outdoor

ต้นกำเนิด

ต้นกำเนิดของ Bubba Kush ยังไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อกันว่าเกิดขึ้นในช่วงปี 1990-1999 เนื่องจากการผสมข้ามสายพันธุ์กันระหว่าง OG Kush กับ Northern Light ที่ไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ หลังจากที่เกิดสายพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางและกลายเป็นสินค้าที่ในร้านขายยาหลายแห่งทั่วโลกต้องมี

การเจริญเติบโต

Bubba Kush เป็นสายพันธุ์ที่มีไม่ต้องการการบำรุงรักษามากนัก เหมาะกับการเพาะปลูกทั้งในร่มและกลางแจ้ง มีความยืดหยุ่นต่อโรคพืชและเชื้อรา ส่งผลให้เป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เริ่มต้นในการปลูก

Bubba Kush เติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 20-27°C นอกจากนี้ ลำต้นยังมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีขนาดค่อนข้างสั้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ปลูกที่มีพื้นที่จำกัด

โดยปกติแล้วระยะเวลาการออกดอกจะกินเวลาที่ 8-9 สัปดาห์ โดยให้ผลผลิตในร่มเฉลี่ย 400-450 ต่อตารางเมตร และผลผลิตกลางแจ้งประมาณ 500-600 กรัมต่อต้น