Acapulco Gold

โปรดทราบว่าข้อมูลที่นำเสนอในหน้านี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอธิบายเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการทบทวนหรือคำแนะนำทางการแพทย์ ผลที่เกิดขึ้นจริงของสายพันธุ์กัญชาอาจแตกต่างกันออกไป กัญชาคือสิ่งที่มีโอกาสเสพติดได้ ดังนั้นจึงควรใช้กัญชาอย่างมีความรับผิดชอบ เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนใช้กัญชาร่วมกับแผนสุขภาพในปัจจุบัน

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนส์ที่โดดเด่น
Caryophyllene, myrcene, pinene
Benefits icon
ช่วยเรื่อง
ความเครียด ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล
Growing icon
ความยากในการปลูก
ปานกลาง
Time of day icon
เวลาที่ควรใช้
กลางวัน

CBD

1%

Low

THC

19%

High
.
80%
.
20%
Sativa Indica

Effects & Usage

กระฉับกระเฉง
Upliftingอารมณ์ดีขึ้น
มีความคิดสร้างสรรค์

Benefits

Acapulco Gold คือสายพันธุ์เน้นซาติวาในตำนานที่มี THC ในปริมาณ 18-23% ขึ้นชื่อเรื่องผลในการทำให้อารมณ์ดีและกระฉับกระเฉง มีลักษณะเฉดสีทองที่โดดเด่นและกลิ่นกาแฟ ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจอย่างรวดเร็วหลังจากที่ปล่อยออกมา

สายพันธุ์นี้มีประวัติศาสตร์มาจากชายฝั่งเมือง Acapulco ที่สดใสจากประเทศเม็กซิโก ในปัจจุบันเริ่มหาได้ยากแล้ว ด้วยเหตุนี้ Acapulco Gold จึงได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นไปอีก

อาการเริ่มต้น

Acapulco Gold ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วโดยกระตุ้นการทำงานของสมอง ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เหมือนซาติวาชนิดอื่น ๆ ทั่วโลก สมองปลอดโปร่งพร้อมพลังงานเต็มเปี่ยมเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สรรพคุณด้านการกระตุ้นสมองนี้จะทำให้งานต่าง ๆ เสร็จสิ้นได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรเจกต์ยาก ๆ หรือจะเป็นการทำความสะอาดบ้านก็ไม่มีปัญหา Acapulco Gold จะทำให้งานเหล่านี้เป็นเรื่องที่สนุกสนานมากขึ้น

สายพันธุ์นี้เป็นตัวละลายพฤติกรรมในปาร์ตี้ได้เป็นอย่างดี เพราะคุณและเพื่อนจะรู้สึกถึงความเคลิบเคลิ้มเบิกบานใจ ตั้งแต่แกะถุงออกมา ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาและอยากทำความรู้จักกับคุณแน่นอน

ในช่วงท้ายของการออกฤทธิ์ คุณจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยจากสรรพคุณของไมร์ซีน แต่ยังดีที่ไม่ได้ผ่อนคลายจนขนาดที่ลุกไปไหนไม่ไหว คุณยังคงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

Acapulco Gold ใช้งานได้ดีสำหรับการสูบในตอนเช้า เพราะคุณจะได้รับพลังงานที่มากกว่ากาแฟทั่วไป

หากคุณชื่นชอบพลังที่ได้จากสายพันธุ์นี้ เราขอแนะนำให้ลอง Green Crack

การใช้งาน

สรรพคุณด้านการทำให้อารมณ์ดีจาก Acapulco Gold จะมีประโยชน์สำหรับคนที่มีความเครียด ความผิดปกติทางอารมณ์ หรือความวิตกกังวล นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการสูบตอนเช้าในกลุ่มคนที่มีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรังที่ต้องการเติมพลังในการเริ่มต้นวันใหม่ คุณสมบัติต้านอักเสบจากแคริโอฟิลลีนสามารถบรรเทาอาการปวด กล้ามเนื้อหดเกร็ง และไมเกรน

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงส่วนใหญ่จาก Acapulco Gold จะเป็นอาการปากและตาแห้งที่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายพบว่ามีอาการปวดศีรษะ ความวิตกกังวล และความหวาดระแวงที่มากขึ้น ดังนั้นมือใหม่ควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณทีหลัง เนื่องจากสายพันธุ์นี้เน้นซาติวาเป็นหลัก จึงเหมาะสำหรับการใช้งานช่วงกลางวันมากกว่ากลางคืนเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับ

Taste & Smell

ต้นสน
ซิตรัส
ซิตรัส

Acapulco Gold คือสายพันธุ์ที่เล่นกับประสาทสัมผัสของเราได้เป็นอย่างดี ดอกมีสีเฉดทอง ไตรโคมมันวาวปกคลุม และมีเรซินเหนียวหนาแน่น ส่งกลิ่นหอมหวานเย้ายวน โดยจะได้กลิ่นต้นสนและซิตรัสเป็นหลัก ตามมาด้วยกลิ่นขมจากกาแฟ ส่งผลให้ Acapulco Gold มีกลิ่นที่พิเศษเป็นอย่างมาก

รสชาติจะมีลักษณะคล้ายกลิ่น เมื่อสูบเข้าไปจะได้รสของบัตเตอร์ครีมและน้ำผึ้ง และเมื่อพ่นควันออกมาจะได้กลิ่นฉุนจากต้นสน

Cannabis sativa grown outdoor

ต้นกำเนิด

ต้นกำเนิดของ Acapulco Gold ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เรารู้เพียงแค่ว่าสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์แลนด์เรซมีต้นกำเนิดมาจากชายฝั่งที่อากาศสดใสของเมือง Acapulco ประเทศเม็กซิโก หลังจากที่ปล่อยออกมาได้สักพักก็ได้เปิดทางเข้าสู่ตลาดอเมริกาในช่วงปี 1960 โดยสายพันธุ์พ่อแม่มีโอกาสสูงที่จะเป็นสายพันธุ์ซาติวาพื้นเมือง

ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยว่า Acapulco Gold จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม High Times Magazine ขนานนามให้สายพันธุ์นี้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุดแห่งปี 2014

สภาพการเจริญเติบโต

Acapulco Gold มีต้นกำเนิดมาจากการปลูกกลางแจ้ง ดังนั้นการปลูกในสภาพแวดล้อมที่ได้รับแสดงแดดและความร้อนจึงดีกว่า ด้วยเหตุนี้เอง ชาวไทยเองก็สามารถปลูกกลางแจ้งในประเทศไทยได้ไม่ยาก ปัญหาหลัก ๆ ตอนนี้คือการหาเมล็ดที่ยังคงมีลักษณะแบบดั้งเดิมมากกว่า

หากคุณมีโอกาสได้เป็นเจ้าของเมล็ดพันธุ์ดี ๆ แล้วต้องการปลูกก็อาจต้องใช้ความอดทนพอสมควร เนื่องจาก Acapulco Gold มักจะมีระยะออกดอกนานกว่าปกติที่ 10-11 สัปดาห์ การปลูกกลางแจ้งมักจะปลูกกันในช่วงปลายเดือนตุลาคม ด้วยความที่เป็นสายพันธุ์กลางแจ้งตามธรรมชาติอยู่แล้วจึงไม่ต้องดูแลอะไรมากนัก เนื่องจากมีความต้านทานต่อโรคราน้ำค้างและเชื้อราสูง นอกจากนี้ยังสามารถปลูกในร่มได้เช่นเดียวกัน โดยจะได้ผลผลิตสูงสุด 450 กรัมต่อตารางเมตร และหากปลูกกลางแจ้งจะได้ 550 กรัมต่อต้น

หากคุณต้องการสายพันธุ์ที่ปลูกกลางแจ้งได้ง่าย เราขอแนะนำ Blueberry.