Blue OG

การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใหห้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนที่โดดเด่น
Myrcene, Caryophyllene, Limonene
Benefits icon
ช่วยในเรื่อง
ความเครียด, ภาวะซึมเศร้า, ความเจ็บปวด, นอนไม่หลับ
Growing icon
ความง่ายในการเจริญเติบโต
ง่าย
Time of day icon
ช่วงเวลาการใช้
เย็น

CBD

1%

Low

THC

20%

High
.
30%
.
70%
Sativa Indica

Effects & Usage

ง่วงนอน
มีความสุข
ผ่อนคลาย

Benefits

Blue OG (หรือเรียกอีกอย่างว่า Blue OG Kush) เป็นสายพันธุ์ที่มีศักยภาพเด่นในกลุ่มอินดิกา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ OG Kush และ Blueberry โดยมีระดับ THC อยู่ระหว่าง 13% ถึง 20% สายพันธุ์นี้จะช่วยทำให้ผู้เสพรู้สึกโล่งและผ่อนคลาย, ช่วยลดความเจ็บปวด และคลายความวิตกกังวลทั้งหมดให้หายไปได้ นอกจากนี้ ยังทิ้งสัมผัสสุดท้ายเป็นกลิ่นหอม ๆ ของผลไม้ ซึ่งรับประกันได้เลยว่า ผู้เสพทุกคนจะรู้สึกดีกับสิ่งนี้อย่างแน่นอน

อาการเริ่มต้น

ผลที่ได้จาก Blue OG อาจจะต้องใช้เวลาในการออกฤทธิ์สักครู่ กว่าที่พวกเขาจะเริ่มรับรู้ถึงความเบิกบานทางอารมณ์อย่างอ่อนโยน และจะค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ และความรู้สึกพึงพอใจอย่างถึงขีดสุด คุณอาจจะรู้สึกถึงการได้รับแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์ที่มากเป็นพิเศษ และพร้อมจะออกไปเผชิญกับโลกภายนอก แต่ผลของอินดิกาก็ใช้เวลาไม่นาน ในการนำพาจิตใจและร่างกายของคุณไปยังความรู้สึกที่เงียบสงบ คล้ายกับการล่องลอยอยู่ในมหาสมุทร ทั้งแขน ขา และเปลือกตาของคุณจะค่อย ๆ หนักขึ้นอย่างช้า ๆ และจิตใจของคุณจะค่อย ๆ ล่องลอยไปอยู่บนก้อนเมฆที่อุ่นสบาย ผ่อนคลาย และสมบูรณ์แบบ ความผ่อนคลายในตอนท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่คุณใฝ่ฝัน นั่นคือ ความรู้สึกแสนสบายบนโซฟา และนอนดูหนังเรื่องโปรดอย่างต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน ด้วยเหตุนี้ Blue OG จึงเหมาะที่สุดสำหรับการใช้งานในช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ และช่วงเวลายามเย็นอัน เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับความสุขของการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ลอง Northern Lights หรือ Hindu Kush ถ้าต้องการความรู้สึกที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ คุณยังสามารถสำรวจรายชื่อสายพันธุ์กัญชาของเรา เพื่อค้นหาสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มเติมที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุดได้ด้วย

การใช้

สายพันธุ์ลูกผสมที่มีศักยภาพเด่นในกลุ่มอินดิกานี้ สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรค ซึ่งทำให้เกิดความผ่อนคลายได้ การผสมผสานระหว่าง Myrcene (ไมร์ซีน) และ Caryophyllene (คาริโอฟิลลีน) ที่ช่วยต้านการอักเสบ ทำให้ Blue OG เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีอาการไม่สบายอย่างต่อเนื่อง, อาการปวดศีรษะ, กล้ามเนื้อกระตุก และอาการป่วยจากการมีประจำเดือน นอกจากนี้ การใช้งานในช่วงดึก ยังช่วยส่งเสริมการนอนหลับสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับด้วย

ประการสุดท้ายที่จะต้องขอบคุณ ก็คือ ความรู้สึกเบิกบานจากสาร Limonene (ลิโมนีน) ใน Blue OG ที่มีเป็นประโยชน์ต่อการกำจัดความรู้สึกซึมเศร้า และความวิตกกังวลแบบชั่วคราว

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงทั่วไปของ Blue OG มีค่อนข้างน้อย ได้แก่ อาการปากแห้งและตาแห้ง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังคงก่อให้เกิดความวิตกกังวล และความหวาดระแวงในผู้ที่มีความรู้สึกไวต่อ THC ดังนั้น ผู้ใช้งานมือใหม่ควรใช้งานสายพันธุ์นี้อย่างระมัดระวัง และเริ่มต้นด้วยปริมาณที่น้อยที่สุด ทั้งนี้  Blue OG อาจทำให้คุณง่วงนอน หากใช้ในช่วงเช้าของวัน

Taste & Smell

เบอร์รี่
ซิตรัส
กลิ่นไม้สน

Blue OG มีความโดดเด่นทางประสาทสัมผัสในด้านของกลิ่นที่แสนพิเศษ ที่จะนำพาคุณไปยังป่าหลังฝนตก ด้วยกลิ่นของไม้สน, ผลไม้กลุ่มซิตรัส และบลูเบอร์รี่ที่หอมหวาน รวมถึงรสชาติที่สะท้อนถึงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ คุณจะได้สัมผัสกับรสหวานของผลไม้ พร้อมด้วยกลิ่นเบอร์รี่และซิตรัสที่โดดเด่น เสริมอรรถรสด้วยกลิ่นไม้สนและกลิ่นที่เผ็ดร้อนจาก Caryophyllene ทำให้การสูบสายพันธุ์ Blue OG มีความอ่อนโยน และเพิ่มความน่าดึงดูดได้เป็นอย่างดี

ลักษณะของดอกจะมีโครงสร้างคล้ายกับต้นอินดิกาโดยทั่วไป โดยมีดอกตูมสีเขียวอ่อนอัดแน่นอยู่เต็มต้น และสอดแทรกด้วยดอกสีม่วงในบางจุด

Cannabis indica grown outdoor

ต้นกำเนิด

ต้นกำเนิดของ Blue OG เป็นการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่าง 3 สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ได้แก่ OG Kush และ Blueberry และ Blue Moonshine   

ไม่น่าแปลกใจที่ Blue OG จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่พิเศษมากเช่นนี้ เพราะการผสมผสานระหว่างคุณสมบัติเฉพาะของสายพันธุ์แต่ละสายพันธุ์ ทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่สร้างความผ่อนคลายอย่างมาก พร้อมด้วยกลิ่นหอมของผลไม้ที่ตลบอบอวลอยู่ในปาก ซึ่งสร้างเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม

การเจริญเติบโต

การเพาะปลูกสายพันธุ์ Blue OG เป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย และถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังลองปลูกในครั้งแรก สายพันธุ์ดังกล่าวสามารถเติบโตได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง ตราบใดที่สถานที่นั้น ๆ มีสภาพแวดล้อมแบบกึ่งชื้น และมีแสงแดดส่องถึง ทั้งนี้ เราขอแนะนำให้ใช้โรงเรือนสำหรับการเพาะปลูกในร่ม

ลักษณะของพืชโดยทั่วไปมีโครงสร้างของลำต้นเตี้ยและเป็นพุ่ม และจะเป็นการดูแลที่ดีหากมีการตัดแต่งใบด้านบนออก เพื่อให้พืชรับแสงแดดได้อย่างเพียงพอ และทำให้แสงแดดส่องลงไปถึงกิ่งก้านที่อยู่ด้านล่าง

สายพันธุ์ Blue OG มีช่วงเวลาการออกดอกค่อนข้างสั้น อยู่ที่ประมาณ 8 ถึง 9 สัปดาห์ ซึ่งให้ผลผลิตตั้งแต่ 400 ถึง 500 กรัมต่อตารางเมตรเมื่อปลูกในร่ม และให้ผลผลิตประมาณ 500 กรัมต่อต้นหากปลูกกลางแจ้ง