Blue OG
การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใหห้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
Quick info
CBD
1%
THC
20%
Effects & Usage
Benefits
Blue OG (หรือเรียกอีกอย่างว่า Blue OG Kush) เป็นสายพันธุ์ที่มีศักยภาพเด่นในกลุ่มอินดิกา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ OG Kush และ Blueberry โดยมีระดับ THC อยู่ระหว่าง 13% ถึง 20% สายพันธุ์นี้จะช่วยทำให้ผู้เสพรู้สึกโล่งและผ่อนคลาย, ช่วยลดความเจ็บปวด และคลายความวิตกกังวลทั้งหมดให้หายไปได้ นอกจากนี้ ยังทิ้งสัมผัสสุดท้ายเป็นกลิ่นหอม ๆ ของผลไม้ ซึ่งรับประกันได้เลยว่า ผู้เสพทุกคนจะรู้สึกดีกับสิ่งนี้อย่างแน่นอน
อาการเริ่มต้น
ผลที่ได้จาก Blue OG อาจจะต้องใช้เวลาในการออกฤทธิ์สักครู่ กว่าที่พวกเขาจะเริ่มรับรู้ถึงความเบิกบานทางอารมณ์อย่างอ่อนโยน และจะค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ และความรู้สึกพึงพอใจอย่างถึงขีดสุด คุณอาจจะรู้สึกถึงการได้รับแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์ที่มากเป็นพิเศษ และพร้อมจะออกไปเผชิญกับโลกภายนอก แต่ผลของอินดิกาก็ใช้เวลาไม่นาน ในการนำพาจิตใจและร่างกายของคุณไปยังความรู้สึกที่เงียบสงบ คล้ายกับการล่องลอยอยู่ในมหาสมุทร ทั้งแขน ขา และเปลือกตาของคุณจะค่อย ๆ หนักขึ้นอย่างช้า ๆ และจิตใจของคุณจะค่อย ๆ ล่องลอยไปอยู่บนก้อนเมฆที่อุ่นสบาย ผ่อนคลาย และสมบูรณ์แบบ ความผ่อนคลายในตอนท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่คุณใฝ่ฝัน นั่นคือ ความรู้สึกแสนสบายบนโซฟา และนอนดูหนังเรื่องโปรดอย่างต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน ด้วยเหตุนี้ Blue OG จึงเหมาะที่สุดสำหรับการใช้งานในช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ และช่วงเวลายามเย็นอัน เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับความสุขของการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ลอง Northern Lights หรือ Hindu Kush ถ้าต้องการความรู้สึกที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ คุณยังสามารถสำรวจรายชื่อสายพันธุ์กัญชาของเรา เพื่อค้นหาสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มเติมที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุดได้ด้วย
การใช้
สายพันธุ์ลูกผสมที่มีศักยภาพเด่นในกลุ่มอินดิกานี้ สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรค ซึ่งทำให้เกิดความผ่อนคลายได้ การผสมผสานระหว่าง Myrcene (ไมร์ซีน) และ Caryophyllene (คาริโอฟิลลีน) ที่ช่วยต้านการอักเสบ ทำให้ Blue OG เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีอาการไม่สบายอย่างต่อเนื่อง, อาการปวดศีรษะ, กล้ามเนื้อกระตุก และอาการป่วยจากการมีประจำเดือน นอกจากนี้ การใช้งานในช่วงดึก ยังช่วยส่งเสริมการนอนหลับสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับด้วย
ประการสุดท้ายที่จะต้องขอบคุณ ก็คือ ความรู้สึกเบิกบานจากสาร Limonene (ลิโมนีน) ใน Blue OG ที่มีเป็นประโยชน์ต่อการกำจัดความรู้สึกซึมเศร้า และความวิตกกังวลแบบชั่วคราว
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงทั่วไปของ Blue OG มีค่อนข้างน้อย ได้แก่ อาการปากแห้งและตาแห้ง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังคงก่อให้เกิดความวิตกกังวล และความหวาดระแวงในผู้ที่มีความรู้สึกไวต่อ THC ดังนั้น ผู้ใช้งานมือใหม่ควรใช้งานสายพันธุ์นี้อย่างระมัดระวัง และเริ่มต้นด้วยปริมาณที่น้อยที่สุด ทั้งนี้ Blue OG อาจทำให้คุณง่วงนอน หากใช้ในช่วงเช้าของวัน
Taste & Smell
Blue OG มีความโดดเด่นทางประสาทสัมผัสในด้านของกลิ่นที่แสนพิเศษ ที่จะนำพาคุณไปยังป่าหลังฝนตก ด้วยกลิ่นของไม้สน, ผลไม้กลุ่มซิตรัส และบลูเบอร์รี่ที่หอมหวาน รวมถึงรสชาติที่สะท้อนถึงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ คุณจะได้สัมผัสกับรสหวานของผลไม้ พร้อมด้วยกลิ่นเบอร์รี่และซิตรัสที่โดดเด่น เสริมอรรถรสด้วยกลิ่นไม้สนและกลิ่นที่เผ็ดร้อนจาก Caryophyllene ทำให้การสูบสายพันธุ์ Blue OG มีความอ่อนโยน และเพิ่มความน่าดึงดูดได้เป็นอย่างดี
ลักษณะของดอกจะมีโครงสร้างคล้ายกับต้นอินดิกาโดยทั่วไป โดยมีดอกตูมสีเขียวอ่อนอัดแน่นอยู่เต็มต้น และสอดแทรกด้วยดอกสีม่วงในบางจุด
ต้นกำเนิด
ต้นกำเนิดของ Blue OG เป็นการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่าง 3 สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ได้แก่ OG Kush และ Blueberry และ Blue Moonshine
ไม่น่าแปลกใจที่ Blue OG จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่พิเศษมากเช่นนี้ เพราะการผสมผสานระหว่างคุณสมบัติเฉพาะของสายพันธุ์แต่ละสายพันธุ์ ทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่สร้างความผ่อนคลายอย่างมาก พร้อมด้วยกลิ่นหอมของผลไม้ที่ตลบอบอวลอยู่ในปาก ซึ่งสร้างเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม
การเจริญเติบโต
การเพาะปลูกสายพันธุ์ Blue OG เป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย และถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังลองปลูกในครั้งแรก สายพันธุ์ดังกล่าวสามารถเติบโตได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง ตราบใดที่สถานที่นั้น ๆ มีสภาพแวดล้อมแบบกึ่งชื้น และมีแสงแดดส่องถึง ทั้งนี้ เราขอแนะนำให้ใช้โรงเรือนสำหรับการเพาะปลูกในร่ม
ลักษณะของพืชโดยทั่วไปมีโครงสร้างของลำต้นเตี้ยและเป็นพุ่ม และจะเป็นการดูแลที่ดีหากมีการตัดแต่งใบด้านบนออก เพื่อให้พืชรับแสงแดดได้อย่างเพียงพอ และทำให้แสงแดดส่องลงไปถึงกิ่งก้านที่อยู่ด้านล่าง
สายพันธุ์ Blue OG มีช่วงเวลาการออกดอกค่อนข้างสั้น อยู่ที่ประมาณ 8 ถึง 9 สัปดาห์ ซึ่งให้ผลผลิตตั้งแต่ 400 ถึง 500 กรัมต่อตารางเมตรเมื่อปลูกในร่ม และให้ผลผลิตประมาณ 500 กรัมต่อต้นหากปลูกกลางแจ้ง