คู่มือสำหรับผู้เริ่มใช้น้ำมัน CBD: ประโยชน์ การใช้งาน และความปลอดภัย
Table of Contents
น้ำมัน CBD กำลังได้รับความสนใจในเรื่องของศักยภาพที่ทำให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ เช่น อาการปวดเรื้อรัง, อาการของโรคลมบ้าหมู และปัญหาความเครียด ปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีการดำเนินการด้านการวิจัยอยู่ โดยมากได้รับผลไปในทางบวก
CBD ย่อมาจาก cannabidiol เป็นหนึ่งในสารประกอบมากกว่า 100 ชนิดที่พบในกัญชา ซึ่งแตกต่างจาก THC สาร CBD ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกมึนเมา หรือส่งผลต่อจิตใจเหมือนกัญชาทั่วไป ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถได้รับประโยชน์จากกัญชาโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางจิตประสาทหรือถูก “นอนนิ่งเหมือนหิน” นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมสารสกัด cannabidiol จึงเป็นส่วนสำคัญของกัญชาที่ใช้รักษาโรค โดยเฉพาะในประเทศไทย
ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราวของน้ำมัน CBD ในประเภทต่าง ๆ อาทิ การใช้ยา,ผลข้างเคียง, ปริมาณ และวิธีการใช้กัน
น้ำมัน CBD คืออะไร
น้ำมัน CBD เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ได้จากกัญชา รวมทั้งกัญชงและกัญชาหลากสายพันธุ์ ในขณะที่ต้นกัญชงเป็นแหล่งน้ำมันหลักสำหรับการผลิต CBD เนื่องจากมีปริมาณ CBD สูงตามธรรมชาติและระดับ THC ต่ำ แต่ CBD ก็ยังสามารถสกัดได้จากสายพันธุ์กัญชาทั่วไปที่มีระดับ THC สูงอีกด้วย
การสกัด cannabidiol จากกัญชามีด้วยกัน 3 วิธี ได้แก่:
- การสกัด CO2: วิธีนี้จะใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมเพื่อสกัดน้ำมัน CBD ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของสารประกอบที่สกัดได้
- การสกัดด้วยตัวทำละลาย: ตัวทำละลายในวิธีนี้ เช่น เอทานอล, บิวเทน หรือไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ ใช้ในการสกัดน้ำมัน CBD จากพืช ตัวทำละลายจะละลายสารแคนนาบินอยด์และสารประกอบอื่น ๆ ซึ่งจากนั้นจะแยกออกจากตัวทำละลาย
- การสกัดน้ำมันมะกอก/น้ำมันมะพร้าว: กระบวนการนี้รวมถึงการให้ความร้อนแก่พืชและน้ำมันไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้สารแคนนาบินอยด์ละลายในน้ำมันได้ นี่เป็นวิธีการทั่วไปในการทำน้ำมัน CBD ที่บ้าน เนื่องจากเทคนิคอื่น ๆ ต้องใช้ความชำนาญและอุปกรณ์เฉพาะทาง
สารสกัดสุดท้ายจะใช้เป็นทิงเจอร์หรือสเปรย์ CBD มีเพียงบางยี่ห้อ เช่น Diip และ Mellow Organic เป็นการเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้น และเพื่อขจัดรสชาติเดิมของกัญชาออกไป
น้ำมัน CBD ถูกกฎหมายในไทยหรือไม่
ใช่ น้ำมัน CBD ถูกกฎหมายในประเทศไทย เมื่อกัญชาทางการแพทย์ได้รับการรับรองในประเทศ นับได้ว่า cannabidiol อยู่ในระดับแนวหน้า เพราะไม่ทำให้มึนเมา, ปลอดภัย และไม่เสพติด
คุณสามารถเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บของเราเกี่ยวกับกฎหมายของกัญชาในประเทศไทยได้ที่นี่
ซื้อน้ำมัน CBD ได้จากที่ไหน
ด้วยกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย คุณจะสามารถซื้อน้ำมัน CBD ในประเทศไทยผ่านช่องทางออนไลน์และร้านขายยา แต่ประเด็นคือ ความปลอดภัยและคุณภาพ
ตามหลักการแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ CBD ที่จะซื้อควรมีสิ่งต่อไปนี้:
- การทดสอบในห้องปฏิบัติการจากบุคคลภายนอก: เลือกน้ำมัน CBD ที่ผ่านการทดสอบจากห้องแลปของบุคคลภายนอก ผลการทดสอบเหล่านี้ต้องรับประกันได้ถึงความโปร่งใสและตรวจสอบประสิทธิภาพ ความบริสุทธิ์ รวมถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ได้
- ความโปร่งใสของส่วนผสม: เลือกยี่ห้อน้ำมัน CBD ที่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและมีรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมน้อยที่สุดและมีคุณภาพสูง รวมถึงหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเติมแต่งเทียมหรือสารตัวเติมที่ไม่จำเป็น
- ปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง: เลือกน้ำมัน CBD ที่ได้จากป่าที่ปลูกแบบออร์แกนิก แนวทางปฏิบัติด้านเกษตรอินทรีย์แบบลดการใช้ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช รวมถึงสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่น ๆ หรือมีก็ให้น้อยที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลิตภัณฑ์ที่สะอาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- ปริมาณ THC: ต้องแน่ใจว่าน้ำมัน CBD มี THC ที่น้อยกว่า 0.2% เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและลดความเสี่ยงของผลกระทบทางจิต
- มาตรฐานการผลิต: มองหาน้ำมัน CBD ที่ผลิตจากโรงงานที่ปฏิบัติตาม Good Manufacturing Practices (GMP) มาตรฐานเหล่านี้จะรับประกันการควบคุมคุณภาพที่สม่ำเสมอและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ได้
- การรีวิวของลูกค้าและชื่อเสียงของแบรนด์: ศึกษาชื่อเสียงของแบรนด์และอ่านรีวิวของลูกค้าด้วยไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะและคำรับรองในเชิงบวก โดยพิจารณาจากการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพและประสิทธิภาพของน้ำมัน CBD
สำหรับ Weed Review เราได้ตรวจสอบสารสกัด cannabidiol ชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดถูกกฎหมายและสอดคล้องกับบรรทัดฐานสังคม ทีมทดสอบผลิตภัณฑ์ของเราได้ทำการวิจัยและปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เพื่อนำเสนอตัวเลือกที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ความต้องการ CBD ของคุณให้มากที่สุด
สเปกตรัมของน้ำมัน CBD
น้ำมัน CBD มีอยู่หลายประเภท มักแบ่งประเภทตามสเปกตรัมของ cannabinoids ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ น้ำมัน CBD แบบ Full-spectrum, น้ำมัน CBD แบบ Broad-spectrum และน้ำมัน CBD แบบ Isolate
แบบ Full-spectrum
น้ำมัน CBD แบบ Full-spectrum ประกอบด้วย cannabinoids หลากหลายชนิด รวมถึง CBD ที่มี THC สกัดออกมาพร้อมกันด้วย (น้อยกว่า 0.2%) นอกจาก CBD และ THC แล้ว ยังมีสารเคมีที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ เช่น Terpenes, Flavonoids และ Cannabinoids อื่น ๆ เช่น CBG (cannabigerol) และ CBC (cannabichromene)
เชื่อว่าการมีอยู่ของสารประกอบที่เพิ่มเข้ามาเหล่านี้เชื่อกันว่าอาจสร้างผลกระทบต่อสิ่งรอบตัว ซึ่งสารประกอบนี้สามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพของกัญชา
น้ำมัน CBD แบบ Full-spectrum อาจส่งผลให้มีการทดสอบยาในเชิงบวกสำหรับ THC ซึ่งอาจมีผลทางจิตประสาทเล็กน้อย แม้ว่าโดยทั่วไปจะมีเพียงเล็กน้อยอยู่แล้วก็ตาม
แบบ Broad-spectrum
CBD แบบ Broad-spectrum มีความคล้ายกับ CBD แบบ Full-spectrum ตรงที่มีสาร Cannabinoids, Terpenes และ Flavonoids หลายชนิด อย่างไรก็ตาม ได้มีการนำไปผ่านขั้นตอนเพิ่มเติม เพื่อลดสาร THC ที่ยังตรวจจับได้ออก จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่ปราศจากสาร THC
ด้วยน้ำมัน CBD แบบ Broad-spectrum คุณอาจสัมผัสได้ถึงผลกระทบรอบตัวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความมึนเมาที่เกี่ยวข้องกับ THC อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยง THC หรือผู้ที่อาจต้องเข้ารับการตรวจสารเสพติดเป็นประจำ
แบบ Isolate
CBD แบบ Isolate เป็นรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุดของ CBD เท่าที่มีอยู่ขณะนี้ ได้ผ่านกระบวนการที่กำจัดสารประกอบทางเคมีอื่น ๆ ออกหมด รวมถึง Cannabinoids, Terpenes และ Flavonoids ทิ้งไว้เพียง CBD ที่แยกออกมาในรูปของผงผลึกหรือของแข็งเท่านั้น
CBD แบบ Isolate ไม่มี THC หรือ cannabinoids อื่น ๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตกค้างของสารเคมีดังกล่าว CBD แบบ Isolate นี้อาจไม่มีผลต่อสิ่งรอบ ๆ ตัว และก็ยังคงรักษาคุณค่าทางการรักษาไว้ได้เหมือนเดิม
ประโยชน์ของน้ำมัน CBD
น้ำมัน CBD นับเป็นแนวทางในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถพิสูจน์ได้จาก 4 กรณีตามด้านล่างนี้
แม้แต่ในประเทศไทย มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล ที่ดำเนินการภายใต้คำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข, กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กำลังทำการศึกษาผลของการรักษาทั้งในมนุษย์ และทดลองทางคลินิก เพื่อสำรวจการใช้น้ำมัน CBD และสารสกัดจากกัญชาในฐานะที่เป็นตัวเลือกด้านการรักษาที่มีศักยภาพของการแพทย์ไทย
บรรเทาอาการปวด
น้ำมัน CBD ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ โดยการทำปฏิกิริยากับระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ (ECS) ในร่างกาย ซึ่ง ECS มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของร่างกายในส่วนต่าง ๆ รวมถึงการรับรู้ความเจ็บปวด เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่รุนแรง CBD อาจลดการอักเสบและอาจช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง, ปวดเส้นประสาท และอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
สุขภาพจิต
CBD สามารถเกิดปฏิกิริยากับตัวรับในสมองที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น หลายคนใช้น้ำมัน CBD เพื่อจัดการกับอาการของโรควิตกกังวลทั่วไป, ความวิตกกังวลทางสังคม และโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD)
คุณภาพของการนอน
CBD สามารถช่วยควบคุมรูปแบบการนอนหลับโดยการทำปฏิกิริยากับตัวรับที่เกี่ยวกับ ECS ซึ่งมีอิทธิพลต่อวงจรการนอนหลับและตื่น ช่วยให้หลับได้เร็วขึ้น, หลับนานขึ้น รวมถึงนอนหลับได้สนิทขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับหรือมีปัญหาการนอนหลับ
อาการโรคลมชัก
น้ำมัน CBD นับเป็นอีกหนึ่งความหวังในการจัดการอาการของโรคลมชัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรคลมชักที่ดื้อต่อการรักษาบางประเภท ประสิทธิภาพของ CBD ในการลดอาการชักนำไปสู่การอนุมัติยาที่ใช้ CBD ที่เรียกว่า Epidiolex โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการรักษาโรคลมชักสองรูปแบบที่หายากและรุนแรง ได้แก่ Dravet syndrome และ Lennox-Gastaut syndrome
ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ของน้ำมัน CBD มีดังนี้
วิธีใช้น้ำมัน CBD
การใช้น้ำมัน CBD เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งมีแนวทางการใช้อยู่ 3 วิธีหลัก ๆ ได้แก่
ใช้เฉพาะที่
น้ำมัน CBD สามารถทาลงบนผิวหนังได้โดยตรง ช่วยบรรเทาอาการเฉพาะที่ที่เราต้องการ เพียงใช้ปริมาณเล็กน้อย แล้วนวดเบา ๆ ให้ซึมซาบสู่ผิว วิธีนี้มักใช้เพื่อจัดการกับอาการปวดกล้ามเนื้อ, อาการปวดเมื่อยตามข้อต่อ รวมถึงอาการทางผิวหนัง
การใช้ใต้ลิ้น
หยดน้ำมัน CBD ที่ใต้ลิ้น จากนั้นมันจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางเส้นเลือดเล็ก ๆ แล้วให้อมน้ำมันตามปริมาณที่ต้องการไว้ใต้ลิ้น ค้างไว้ 60 – 90 วินาทีก่อนกลืน
วิธีนี้ช่วยให้การดูดซึมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านระบบย่อยอาหาร และส่งสาร cannabidiol เข้าสู่ระบบของคุณโดยตรง การอมใต้ลิ้นเป็นวิธีที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลที่รวดเร็วขึ้นและสามารถควบคุมปริมาณยาได้อย่างแม่นยำ
หยดลงในอาหารและเครื่องดื่ม
น้ำมัน CBD ยังสามารถใช้แบบหยดลงในอาหารและเครื่องดื่มได้อีกด้วย เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถผสมลงในสูตรอาหารที่คุณชื่นชอบ เช่น สมูทตี้, น้ำสลัด หรือขนมอบ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปกปิดรสชาติดั้งเดิมของกัญชาซึ่งบางคนอาจไม่ชอบได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ควรให้อยู่ห่างความร้อนสูง เพื่อรักษาประสิทธิภาพและผลประโยชน์ของ CBD ไว้
ความรู้สึกจากการใช้น้ำมัน CBD
น้ำมัน CBD มักให้ความรู้สึกผ่อนคลายล ลดความวิตกกังวล และมีคุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้น ช่วยสร้างภาวะสงบโดยไม่ทำให้การทำงานของสมองบกพร่อง แต่ที่สำคัญยังช่วยให้รู้สึกสงบขึ้นอีกด้วย
บางคนอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์เล็กน้อย รู้สึกสมดุลมากขึ้นหรือสบายใจขึ้นหลังจากใช้น้ำมัน CBD ผลที่ได้นี้ อามาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณ, สารเคมีในร่างกายแต่ละชนิด และผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ใช้ เป็นต้น
CBD ส่งผลกระทบในแต่ละคนแตกต่างกัน และบางคนอาจไม่สังเกตเห็นผลกระทบในทันที ในขณะที่บางคนอาจเห็นผลกระทบของ CBD ได้ชัดเจนกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในปริมาณที่สูงขึ้นหรือในกรณีที่มีอาการเฉพาะ เช่น อาการปวด, อาการอักเสบ หรือความวิตกกังวล
ข้อกำหนดด้านปริมาณ
การกำหนดปริมาณน้ำมัน CBD ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำหนักตัว, ผลที่ต้องการ และความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์
ทางที่ดีควรเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มเพื่อหาปริมาณที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
พิจารณาน้ำหนักตัวของคุณและความเข้มข้นของสาร CBD ในผลิตภัณฑ์ อ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์และปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด หมั่นสังเกตอาการที่ตอบสนองของร่างกายและปรับขนาดยาให้เหมาะสม
หากจำเป็น ให้ปรึกษาแพทย์ที่คลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐ เพื่อขอคำแนะนำเป็นกรณีไป
โดยทั่วไปแล้ว CBD นั้นปลอดภัย ไม่มีรายงานการใช้ยาเกินขนาดจนถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตาม คุณควรระมัดระวังเสมอ เริ่มจากระดับต่ำก่อน และคอยสังเกตดูว่าร่างกายของคุณมีปฏิกิริยาอย่างไร สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านปริมาณ โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อนี้
ผลข้างเคียงจากน้ำมัน CBD
โดยทั่วไปแล้วน้ำมัน CBD นั้นได้รับการยอมรับอย่างดีจากคนส่วนใหญ่ แต่ก็เช่นเดียวกับอาหารเสริมอื่น ๆ มันอาจทำให้เกิด ผลเสียบางอย่างได้เช่นกัน แม้ว่าผลที่ได้จะไม่รุนแรงและจางหายไปเอง แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องระวังไม่ให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้น
- อาการปากแห้ง: น้ำมัน CBD อาจทำให้น้ำลายลงชั่วคราว จึงรู้สึกได้ว่าปากจะแห้งหรือปากเป็นขุย การดื่มน้ำให้เพียงพอ สามารถช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวนี้ได้
- ความเมื่อยล้าและง่วงนอน: ในบางกรณี น้ำมัน CBD อาจทำให้ง่วงนอนหรือรู้สึกเฉื่อยชาได้ เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการขับรถหรือใช้เครื่องจักร จนกว่าจะทำความเข้าใจว่าการใช้ CBD จะส่งผลกับคุณอย่างไร
- ความอยากอาหารเปลี่ยนไป: CBD อาจส่งผลต่อความอยากอาหาร ความหิวอาจเพิ่มหรือลดลงก็ได้ แต่ละคนจะได้ผลไม่เหมือนกัน
- ท้องร่วง: บางครั้งใช้น้ำมัน CBD ในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินอาหารได้ เช่น ท้องเสีย แนะนำให้เริ่มในปริมาณที่น้อยก่อน และค่อย ๆ เพิ่มตามขนาดที่ร่างกายรับได้
- ใช้เฉพาะที่: เมื่อใช้น้ำมัน CBD เฉพาะที่ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนังที่อาจเกิดขึ้น ควรทดลองทาน้อย ๆ ในบริเวณพื้นที่เล็ก ๆ ของผิว เพื่อทดสอบการแพ้ก่อน
ปฏิกิริยาระหว่างยา
CBD มีศักยภาพในการทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะหากคุณกำลังใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง น้ำมัน CBD สามารถส่งผลต่อเอนไซม์ตับซึ่งมีหน้าที่เผาผลาญยาหลายชนิด อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระดับยาในเลือดได้ หากคุณกำลังใช้ยาอยู่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ระหว่าง CBD กับยาที่คุณใช้อยู่
ร่างกายของแต่ละคนมีปฏิกิริยาต่อ CBD ที่ต่างกันไป และแม้ว่าผลข้างเคียงเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอ หากคุณพบอาการไม่พึงประสงค์ ให้หยุดใช้ CBD และปรึกษาแพทย์ทันที
บทสรุป
น้ำมัน CBD เป็นทางเลือกตามธรรมชาติที่ช่วยในการผ่อนคลายและการจัดการอาการบางอย่าง เพื่อให้คุณภาพการใช้ชีวิตดีขึ้น และไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย, คุณภาพ และการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ
เมื่อพิจารณาน้ำมัน CBD ให้มองหาแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีการให้ข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ผ่านการทดสอบโดยบุคคลภายนอก รวมถึงปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิตระดับสูง นอกจากนี้ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำ นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า CBD เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ทั้งนี้ จากการพิจารณาให้รอบคอบและทางเลือกที่เหมาะสมแล้ว น้ำมัน CBD สามารถเป็นส่วนเสริมที่มีคุณค่าสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้