Cannatonic
การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
Quick info
CBD
15%
THC
4%
Effects & Usage
Benefits
CANNATONIC หรือที่รู้จักกันดีในนาม “โรงบำบัดรักษา” ที่ให้การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความผ่อนคลายและความชัดเจนทางจิตใจของผู้ที่ชื่นชอบกัญชา สายพันธุ์นี้เป็นลูกผสมอันมีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน มีส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่าง MK Ultra อันทรงพลังและ G13 Haze ที่มีรสชาติดี ความโดดเด่นของของมันอยู่ที่การมีสาร CBD สูงถึง 17% ขณะที่ THC อยู่ในระดับปานกลางซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 4-7%
อาการเริ่มต้น
อาการเริ่มต้นหลังใช้ Cannatonic จะออกฤทธิ์ในส่วนของสมอง ให้ความสงบและอ่อนโยน คุณจะห่างไกลจากความเครียดและความวิตกกังวลทั้งหมด คุณจะรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆแห่งความสุข รอบกายมีแต่ความปลอดโปร่ง ความคิดใหม่ๆ มากมายจะแล่นเข้าในหัวคุณ ทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ สายพันธุ์นี้มีสาร THC ต่ำ จึงไม่ทำให้คุณเมาแต่จะทำให้อารมณ์คุณดีขึ้น
ในเวลาเดียวกันความเจ็บปวด รวมถึงความตึงเครียดทางร่างกายก็จะหายไป ร่างกายของคุณจะผ่อนคลายลงอย่างมากจนคุณสามารถทำกิจกรรมที่เคยทำและกิจกรรมใหม่ๆ ที่เคยทำให้คุณปวดเมื่อยมาแล้วได้อย่างสบาย หากเทียบในกลุ่มของกัญชาสายพันธุ์นี้มักใช้เป็นยาคลายเครียดโดยมีการกระตุ้นอย่างอ่อนโยนไม่ทำให้เมา ซึ่งคุณสามารถทำกิจกรรมได้อย่างปกติ ดังนั้น Cannatonic จึงสามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลาของวัน เมื่อคุณต้องการบรรเทาอาการปวดหรือการผ่อนคลาย อาจมีอาการเมาในช่วงสั้นๆ แต่ประโยชน์ทางยานั้นมีมากมาย ด้วยสรรพคุณอันอ่อนโยนนี้จึงเหมาะกับผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาแล้วในทุกระดับและมีความต้องการทางการแพทย์ที่หลากหลาย
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบสรรพคุณแนวบำบัดจาก CBD ลอง Charlotte’s Angel หรือ ACDC และอีกหนึ่งทางเลือกคุณสามารถค้นสายพันธุ์อื่นๆ ของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่
การใช้
ความโดดเด่นที่เหนือสิ่งอื่นใดคือ Cannatonic เป็นยาแก้ปวดที่ทรงพลังแม้ว่าคุณจะมีอาการเจ็บปวดรุนแรง ซึ่งเราแนะนำให้ใช้กับผู้ที่มีอาการไมเกรน กล้ามเนื้อกระตุก อาการปวดเรื้อรัง รวมไปถึงโรคต่างๆ อาทิ สมองพิการหรือผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังตามกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่ออ่อนตามร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถต้านอาการอักเสบได้อีกด้วย นั่นเป็นเพราะว่าสายพันธุ์นี้มี CBD สูงและมีเทอร์ปีนอย่าง Pinene และ Caryophyllene อยู่นั่นเอง สารเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ โรคลำไส้แปรปรวน และโรคระบบทางเดินอาหารอักเสบอีกด้วย
ส่งท้ายการเรื่องการใช้ ความเครียดต่างๆ ที่คุณมีจะหายไปด้วย Cannatonic ที่จะช่วยบรรเทาความเครียด ความวิตกกังวล และความฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดในสายพันธุ์ Cannatonic ได้แก่ ตาและปากแห้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องทั่วไปของกัญชาเกือบทุกสายพันธุ์ สายพันธุ์นี้มี THC ต่ำ ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหวาดระแวงจึงน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ควรใช้อย่างระมัดระวังและเริ่มจากปริมาณที่น้อยก่อน
Taste & Smell
กลิ่นของสายพันธุ์นี้คล้ายกลิ่นดินเป็นหลัก ตามมาด้วยกลิ่นซิตรัสที่หวานหอมอย่างชัดเจนเมื่อดอกถูกรมควัน
ควันมีความนุ่มนวลและน่ารื่นรมย์ ให้รสชาติที่สดชื่นที่เพดานปากด้วยกลิ่นของต้นสนและส้ม ทำให้ได้รสที่หวานอมเปรี้ยวและกลิ่นเครื่องเทศกรุ่นอยู่ในลำคอ ดอกมีความตูมคล้ายป๊อปคอร์นที่เป็นก้อนหนาแน่น มีสีออกโทนเหลืองอมเขียว ถึงแม้จะมีสาร THC ต่ำ แต่สายพันธุ์นี้ก็มีขนสีขาวคล้ายดอกเห็ดเล็กๆ เป็นประกายระยิบระยับจนสังเกตได้
ต้นกำเนิด
Cannatonic ผ่านการสร้างสรรค์อย่างเชี่ยวชาญโดยผู้เพาะเลี้ยงสายพันธุ์ชาวเสปนที่ Resin Seeds ซึ่งเป็นผู้นำสายพันธุ์ MK Ultra อันทรงพลังมาผสานเข้ากับ G13 Haze ซึ่งมีรสชาติที่น่าลิ้มลอง เพื่อสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทั้งนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมีการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ CBD ทั้งหมดในยุโรป ซึ่งก็เป็นการยากที่จะระบุว่าข่าวลือนี้เป็นความจริงหรือไม่ แต่เท่าที่รู้ Cannatonic ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมากจากทั่วโลก คว้ารางวัลมาแล้วมากมายรวมถึง Canabis Cup
การเจริญเติบโต
นับว่าเป็นการท้าทายสำหรับใครที่จะปลูกสายพันธุ์ Cannatonic นี้ ดังนั้น ผู้ที่ปลูกควรมีประสบการณ์ในการปลูกมาบ้างแล้ว เพราะสายพันธุ์นี้ไวต่อเชื้อรา โรคราน้ำค้าง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น จะดีที่สุดหากปลูกในที่ร่มเพื่อป้องกันการเกิดโรค และเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะสมต่อการเติบโต ซึ่งภายใน 10-11 สัปดาห์ ต้นไม้จะสูงขึ้นปานกลาง หากปลูกในร่มจะให้ผลผลิตประมาณ 500 กรัม ต่อตารางเมตร แต่หากปลูกกลางแจ้งจะให้ผลผลิตได้มากถึง 400 กรัมต่อต้นเลยทีเดียว