CBD คืออะไร: ประโยชน์ กฎหมาย และผลข้างเคียงของ Cannabidiol

CBD คือสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยโดยปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทิงเจอร์ ​สารสกัด อาหารผสมกัญชา รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ด้วยประโยชน์ด้านการรักษาของมันนั้นได้รับการยกย่องจากหลาย ๆ คน ผนวกกับการวิจัยเพิ่มเติมที่กำลังดำเนินการอยู่ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะค้นพบศักยภาพของ CBD ได้อีกมากมายเลยทีเดียว

การที่ประเทศไทยได้ประกาศให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายเท่ากับเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการส่งเสริมประโยชน์ทางยาของพืชกัญชาและเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ โดยตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมายคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

หลายคนเริ่มมีคำถามเกี่ยวกับ CBD และวิธีการใช้งานต่าง ๆ มากขึ้น จึงทำให้ความต้องการข้อมูลที่เชื่อถือได้และครบถ้วนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

อธิบายเกี่ยวกับ CBD แบบเข้าใจง่าย

พืชกัญชาประกอบด้วยสารเคมีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหลายชนิดที่เรียกรวม ๆ ว่า สารแคนนาบินอยด์ ซึ่งในปัจจุบันมีมากกว่า 80 ชนิด ในกลุ่มนี้จะมี THC (Tetrahydrocannabinol) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแง่ที่ส่งผลกระทบต่อจิตประสาทที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชา เป็นสารประกอบที่สามารถทำให้คุณรู้สึก “High” หรือมึนเมาได้

ในขณะที่ CBD (Cannabidiol) ไม่ทำให้มึนเมาและไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างด้วยกัน เช่น คลายความวิตกกังวล และลดการอักเสบ โดยถ้าเป็น THC จะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ ทั้ง THC และ CBD มีคุณสมบัติเป็นยา บางคนชอบ CBD เนื่องจากคุณสมบัติพื้นฐานของมันไม่ทำให้เคลิบเคลิ้ม นอกจากนี้ การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าสาร CBD อาจมีศักยภาพทางยาในเรื่องของการรักษาสภาวะสุขภาพที่หลากหลาย รวมถึงความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า, ความเจ็บปวด และโรคลมบ้าหมู เป็นต้น

CBD มาจากที่ใด?

Cannabis มีอยู่สองประเภทด้วยกัน ได้แก่ กัญชา และ กัญชง

กัญชามีปริมาณ THC มากกว่า CBD ในขณะที่กัญชงมี CBD มากกว่า

ผลิตภัณฑ์ CBD ส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้ cannabidiol มาจากพืชกัญชงเกรดอุตสาหกรรมซึ่งมีความเข้มข้นของ THC อยู่ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด

เกษตรกรบางรายใช้เมล็ดกัญชาเพื่อเพาะปลูกดอกกัญชาที่มี CBD เข้มข้นและมี THC ต่ำ ทำให้ผลิตภัณฑ์ CBD ของคุณอาจทำให้คุณรู้สึกมึนเมาได้เล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อผลิตภัณฑ์แบบไหนและที่ใดด้วย

CBD ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?

CBD เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศไทยอย่างสมบูรณ์แล้ว ตราบใดที่มีปริมาณ THC ที่ต่ำกว่า 0.2% จากน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดนี้ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ CBD ทุกประเภท รวมถึงสารสกัด, น้ำมัน, อาหาร และยาเฉพาะที่

เพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณการใช้ THC อยู่ในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด สิ่งสำคัญคือ ต้องตรวจสอบผ่านผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ผลิตภัณฑ์ CBD ส่วนใหญ่ในประเทศไทยมาพร้อมกับรหัส QR บนฉลากที่สามารถเข้าไปเช็คข้อมูลได้ หรือจะตรวจสอบจากเว็บไซต์ของพวกเขาก็ได้เช่นกัน

หากคุณเดินทางและพกพาผลิตภัณฑ์ CBD ไปด้วยภายในประเทศเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะพก CBD หรือเยลลี่ขึ้นเครื่องบินก็สามารถทำได้ทุกที่ในประเทศไทย แต่ไม่สามารถพกพา CBD ออกนอกประเทศได้ หากต้องการพกพา cannabidiol ไปต่างประเทศควรศึกษากฎหมายท้องถิ่นของแต่ละที่ด้วย

ควรศึกษาเรื่องกฎหมายให้ดี เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ประโยชน์ของ CBD

หลักการทำงานของ CBD คือการมีปฏิสัมพันธ์กับระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ (ECS) ซึ่งมีหน้าที่รักษาสมดุลภายในร่างกาย เมื่อร่างกายมนุษย์ขาดสมดุลอันเนื่องมาจากอาการปวด ความเครียด หรือเหตุผลใดก็ตาม ระบบ ECS จะเข้ามาช่วยซ่อมแซมให้กลับมามีความสมดุลอีกครั้ง นักวิทยาศาสตร์หลายคนระบุว่า CBD ช่วยสนับสนุนให้ระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ทำงานได้ดีขึ้นและช่วยซ่อมแซมให้เกิดความสมดุลในร่างกาย

นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งข้อสังเกตว่าประโยชน์ของอาหารเสริม CBD เกิดขึ้น เนื่องจากความสามารถของ cannabinoid ที่ช่วยให้การทำงานของระบบ endocannabinoid เป็นไปอย่างปกติและมีความสมดุล

CBD มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยและการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้ว ปัจจุบันกำลังมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบระยะยาว, ประสิทธิภาพ และศักยภาพในการรักษาโรคต่าง ๆ ต่อไป

CBD เป็นเหมือนอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ไม่ทำให้เกิดอาการเสพติดหรือมีผลข้างเคียงร้ายแรง

บรรเทาอาการปวด

CBD อาจช่วยลดความเจ็บปวดและการอักเสบในร่างกายได้ การวิจัยชี้ให้เห็นว่า CBD อาจมีผลต่อการลดอาการปวดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับสภาวะของโรคต่าง ๆ เช่น โรคข้ออักเสบ, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และโรคระบบประสาท นอกจากนี้ยังอาจมีผลข้างเคียงและมีแนวโน้มการเสพติดน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยาแผนโบราณ

ช่วยให้หลับได้ดีขึ้น

CBD จะช่วยส่งเสริมให้การนอนหลับนั้นดีขึ้น จากการศึกษาแนะนำว่า CBD สามารถปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้ โดยการลดความวิตกกังวล ซึ่งมักเป็นสาเหตุหลักของการรบกวนการนอนหลับ นอกจากนี้ CBD อาจช่วยควบคุมวงจรการหลับ-ตื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การนอนหลับที่สงบและร่างกายได้รับการฟื้นฟูที่มากขึ้นได้

ความวิตกกังวลและความเครียด

CBD อาจช่วยลดความวิตกกังวลและลดระดับความเครียด ECS (ระบบเอนโดแคนนาบินอยด์) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก จากการศึกษาแนะนำว่า CBD อาจช่วยควบคุมกระบวนการเหล่านี้ได้ โดยการทำปฏิกิริยากับ ECS การวิจัยชี้ให้เห็นว่า CBD อาจมีฤทธิ์คลายความวิตกกังวลและทำให้อารมณ์สงบขึ้นได้ แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจการใช้ CBD ในการรักษาโรคทางจิตเวชต่าง ๆ

ภาวะซึมเศร้า

CBD อาจมีผลในการกล่อมประสาท จากการศึกษาระบุว่า CBD อาจช่วยควบคุมระดับเซโรโทนินในสมอง ซึ่งสามารถปรับอารมณ์และลดอาการซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ CBD อาจมีผลปกป้องระบบประสาทและสมอง ป้องกันสมองจากความเสียหายและความเสื่อมได้

โรคลมชัก

CBD มีประโยชน์ในการลดอาการชักในผู้ที่เป็นโรคลมชัก การวิจัยพบว่า CBD จะช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการชักในผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ยังอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้ยาต้านอาการชัก ซึ่ง CBD แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีต่อการรักษาผู้ที่เป็นโรคลมชักได้

ตัวอย่างเช่น ยาอีพิดิโอเล็กซ์ ซึ่งเป็นยาที่ใช้สาร CBD เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับรักษาโรคลมชักสองรูปแบบที่หายากและรุนแรง ได้แก่ กลุ่มอาการเลนน็อกซ์-กาสเทาต์และกลุ่มอาการดราเวต

สุขภาพผิวดีขึ้น

CBD มีประโยชน์ต่อผิวหนัง การศึกษาแนะนำว่า CBD อาจช่วยลดการอักเสบและควบคุมการผลิตน้ำมันใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ผิวมีสุขภาพดีและกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ CBD ยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายและริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย

งานวิจัย CBD ในประเทศไทย

ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนที่สนับสนุนกรณีการใช้ CBD เป็นยารักษาโรคในประเทศไทย คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาเหล่านี้ได้ผ่านมุมมองของเราเกี่ยวกับแนวโน้มการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ของไทย

• งานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่ามีพ่อแม่ชาวไทยที่ใช้ CBD กับลูกเพื่อรักษาโรคลมชัก และมีรายงานว่าความถี่ในการชักลดลง

• อีกหนึ่งการสำรวจผู้ใช้กัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย พบว่าการรักษาโรคมะเร็ง ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า รวมถึงความเจ็บปวด ล้วนเป็นเหตุผลหลักในการเลือกผลิตภัณฑ์กัญชา

• ในปี ค.ศ. 2021 องค์การเภสัชกรรมได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่เสนอว่ากัญชาทางการแพทย์ที่อุดมไปด้วยสาร CBD อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคลมชักในเด็กที่มีอาการดื้อยาได้
• รัฐบาลกำลังวิจัยสรรพคุณทางยาของกัญชาอย่างเอาจริงเอาจัง นับตั้งแต่พืชกัญชาได้รับการรับรองในปี 2019 มีการศึกษาวิจัยมากกว่า 60 รายการ เพื่อทำความเข้าใจยาที่ใช้กัญชาในโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย

วิธีใช้ CBD

น้ำมัน CBD เป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่สามารถอมใต้ลิ้น, ผสมในอาหารหรือเครื่องดื่ม หรือทาเฉพาะที่ก็ได้ ซึ่งจะเห็นผลได้เร็ซและไม่มีอันตรายต่อผู้ใช้ ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ, ความวิตกกังวล, จัดการการนอนหลับ, อาหารผสม CBD เป็นอาหารและเครื่องดื่มที่ปรุงด้วยสาร Cannabidiol เช่น เยลลี่, ช็อกโกแลต และชา เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติของน้ำมัน CBD แบบเพียว ๆ

ดอก CBD นั้นคล้ายกับดอกตูมของกัญชาทั่วไป ยกเว้นว่าจะมีปริมาณ CBD สูงกว่าและมีปริมาณ THC ต่ำกว่า การสูบอาจยังสร้างผลกระทบต่อสมอง แต่ไม่รุนแรงหรือรุนแรงเท่า THC สำหรับครีม บาล์ม และยาทาผิวเฉพาะที่ผสม CBD จะถูกทาลงบนผิวหนังโดยตรงและเหมาะสำหรับการบรรเทาอาการปวดเฉพาะที่หรือเพื่อปรับสภาพผิว เช่น กลาก และโรคสะเก็ดเงิน

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญคือ ต้องกำหนดปริมาณ CBD ที่เหมาะสมกับอาการของคุณ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วร่างกายจะทนกับ CBD ได้ดี แต่ก็ไม่แนะนำให้รับประทานในปริมาณที่มากเกินไป หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการแก้ปัญหาการนอนหลับหรือความวิตกกังวล ทิงเจอร์ และกัมมี่คือ ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพื่อบรรเทาอาการปวด Weed Review แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรับประทานและยาทาร่วมกัน

วิธีที่เหมาะสมที่สุด คือ การปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกกัญชาเพื่อการแพทย์ในการรับคำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ

ผลข้างเคียงของ CBD

ในทางการแพทย์ CBD มีความปลอดภัยที่ดีมาโดยตลอด จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในเดือนมิถุนายน 2018 ระบุว่าผู้ใหญ่มีความทนต่อ CBD ได้ดี ไม่เป็นโทษและไม่มีความเสี่ยงต่อการเสพติดอีกด้วย

ทั้งนี้ ยังมีผลข้างเคียงบางประการของ CBD ที่ควรรู้ ซึ่เป็นสิ่งที่เล็กน้อยและจะหายไปได้เองตามกาลเวลา ได้แก่:

• ปากแห้ง
• ท้องเสีย
• ง่วงนอน
• อ่อนเพลีย
• ความอยากอาหารหรือน้ำหนักตัวเปลี่ยนไป
• ความดันโลหิตต่ำ
• เวียนศีรษะหรือหน้ามืด

ปฏิกิริยาระหว่างยา

CBD จะทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ได้ (หรือที่เรียกว่า grapefruit warning) นอกจากนี้ยังอาจทำให้ยาเข้าสู่ระบบของคุณมากหรือน้อยเกินไปได้ ส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาอย่างมาก ในบางกรณีอาจส่งผลต่อสุขภาพของตับได้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงไม่แนะนำให้ผสมกัญชากับยา หากคุณต้องการผสม CBD กับยาที่มีอยู่ ให้ปรึกษาแพทย์ของคุณล่วงหน้า

บทสรุป

CBD แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ดีในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคลมชัก, อาการปวดเรื้อรัง, ความวิตกกังวล และความผิดปกติของการนอนหลับ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการใช้ยาอื่น ๆ สิ่งสำคัญคือ ต้องตระหนักถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นและปรึกษากับผู้ให้บริการทางการแพทย์ก่อนใช้ ด้วยการศึกษาและคำแนะนำที่เหมาะสม CBD สามารถเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพและการจัดการอาการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ CBD ที่ดีที่สุด คุณควรซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงพร้อมใบรับรองการวิเคราะห์ (COA) ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการของบุคคลที่สามซึ่งเป็นวิธีที่ดีสำหรับการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผลการทดสอบนี้จะบอกถึงสิ่งที่คุณจะได้รับโดยระบุไว้บนฉลาก

เพื่อความสะดวกของคุณ Weed Review ได้ทุ่มเทในการหาข้อมูลและรวบรวมรายชื่อผลิตภัณฑ์ รวมถึงแบรนด์ CBD ชั้นนำของประเทศไทยมาไว้ที่นี่แล้ว สามารถเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และสั่งซื้อออนไลน์เพื่อประสบการณ์ที่ดีได้แล้ววันนี้