คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับ CBD Vape: กฎหมาย, ประโยชน์, ความปลอดภัย และความเสี่ยง

Cannabidiol หรือ CBD ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางว่าเป็นเหมือนยารักษาโรคต่าง ๆ ที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งต่างจากสาร THC เพราะ CBD ไม่มีฤทธิ์ทางจิตประสาท ซึ่งหมายความว่ามันไม่ได้ทำให้เกิดอาการเมา ทำให้ CBD เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาผลการรักษาของกัญชาที่ไม่มีผลกระทบทางจิตประสาท

ในบรรดาวิธีการบริโภค CBD รูปแบบต่าง ๆ  การสูบแบบ Vape ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาว

ในปี 2023 ผู้ใช้ CBD ประมาณ 37% ในสหรัฐอเมริกาเลือกใช้ปากกา CBD vape นอกจากนี้ ยังมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ CBD แบบ Vape เพิ่มมากขึ้น การสำรวจโดย SingleCare พบว่า ผู้บริโภคประมาณ 13% อยากเรียนรู้ เกี่ยวกับตัวเลือกนี้มากขึ้น

สิ่งนี้บ่งชี้ถึงศักยภาพที่สำคัญในการเติบโตของตลาดการสูบ CBD Vape ซึ่งเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนได้ในประเทศไทย แม้ว่า การสูบกัญชาทุกรูปแบบ รวมถึงการสูบ CBD Vapeถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย

เราจะสำรวจว่าปากกา CBD vape ทำงานอย่างไร รวมถึงพิจารณาข้อมูลด้านความปลอดภัย และข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้ โดยเรามุ่งหวังที่จะให้ความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องบนฐานของข้อมูล

CBD vape คืออะไร

ปากกา CBD vape ทำงานบนหลักการพื้นฐานเดียวกันกับปากกา THC ด้วยการให้ความร้อนที่น้ำมัน CBD จนถึงจุดที่กลายเป็นไอ จากนั้นสูดไอระเหยเข้าไป ส่ง CBD เข้าไปที่ปอดและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ผู้ที่ต้องการบรรเทาความวิตกกังวล, ความเจ็บปวด หรือการอักเสบ ได้รับผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว

ความแตกต่างที่สำคัญในองค์ประกอบของน้ำยา CBD vape เมื่อเทียบกับน้ำยา THC vape คือ ปริมาณสาร cannabinoid

โดยทั่วไปน้ำยา CBD vape จะทำจากสารสกัดจากกัญชา และมี CBD ในระดับสูง โดยไม่มี THC หรือถ้ามีก็จะน้อยมาก ในทางกลับกัน น้ำยา THC vape ทำจากสายพันธุ์กัญชาที่มีความเข้มข้นของ THC ที่สูงกว่า

ในน้ำยา CBD vape ประกอบด้วยอะไรบ้าง

น้ำมัน CBD vape มีของเหลวตัวพาที่แตกต่างจากที่ใช้ในน้ำมัน THC vape โดยมีส่วนผสมหลักได้แก่:

• Cannabidiol (CBD) – ที่มีสเปกตรัมแตกต่างกัน ภายในน้ำยา Vape เช่น CBD-Isolate หรือ CBD แบบผสมระหว่าง Cannabinoids และ Terpene
• ตัวทำละลาย – ใช้เพื่อละลาย CBD และสร้างไอระเหย :
  • ผสมระหว่าง Vegetable Glycerin (VG) และ Propylene Glycol (PG) เนื่องจากมีความปลอดภัยและมีคุณสมบัติละลายน้ำได้
  • Medium-chain triglyceride (MCT) ส่วนใหญ่ได้จากน้ำมันมะพร้าว เป็นตัวทำละลายอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ในน้ำมัน CBD และผลิตภัณฑ์ vape บางชนิด แม้ว่าความปลอดภัยในเรื่องการสูดดมยังคงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด
  • TEC Temper Oil เป็นสารใหม่ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารป้องกันการระคายเคือง ที่ช่วยให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น
  • สารปรุงแต่งรส : น้ำยา CBD vape อาจมี สารแต่งกลิ่น เพื่อให้มีรสชาติที่หลากหลาย ซึ่งรสชาติเหล่านี้อาจจะสกัดมาจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์ก็ได้

ส่วน CBD e-liquid คือน้ำยา vape ที่มีหลากหลายสูตร เหมาะสำหรับความชอบและความต้องการที่แตกต่างกัน:

• CBD isolate: สารเหล่านี้ประกอบด้วย CBD บริสุทธิ์เท่านั้น และปราศจากสารแคนนาบินอยด์หรือเทอร์ปีนอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ THC
• E-liquid จากพืช: รวมถึงสารประกอบจากพืชกัญชาทุกประเภท เช่น แคนนาบินอยด์, เทอร์ปีน และน้ำมันหอมระเหยอื่น ๆ ซึ่งทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มผลการรักษา หรือที่เรียกว่า Entourage Effect โดยอาจมี THC ในปริมาณเล็กน้อย
• Broad-Spectrum CBD Vapes: เช่นเดียวกับ ผลิตภัณฑ์ Full-spectrum ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารสกัดจากกัญชาหลายชนิด แต่กำจัดสารประกอบ THC ทั้งหมดออกจนหมด เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการได้รับประโยชน์จาก Entourage Effect โดยไม่มี THC ใด ๆ ซึ่งอาจรวมถึงสาร Cannabinoid เช่น CBG (Cannabigerol) และ CBN (Cannabinol)

ประเภทของ CBD vape

CBD vape มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบให้ความสะดวกและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน:

• CBD Vape แบบใช้แล้วทิ้ง: ปากกา Vape พร้อมใช้งานเหล่านี้ จะถูกทิ้งเมื่อ CBD e-liquid หมดลง มีข้อดีตรงที่ สะดวกต่อการพกพา เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ใช้เป็นครั้งคราว
• CBD Vape แบบใช้ซ้ำได้:
  • ระบบที่ใช้ตลับหมึก: ประกอบด้วยแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ และตลับหมึกแบบเปลี่ยนได้ (มักเรียกว่า ‘cart’) เมื่อ e-liquid หมดก็แค่เปลี่ยนตลับใหม่ ระบบนี้ใช้งานง่าย และช่วยให้ทดลอง CBD vape ได้หลากหลายสูตร
  • ระบบรีฟิล: อุปกรณ์เหล่านี้จะมีถังที่สามารถเติมน้ำยา CBD vape ได้ ผู้ใช้ควรมีความรู้เพิ่มเติมในการใช้งาน แต่รูปแบบนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าในเรื่องการเลือกรสชาติ และความเข้มข้นของ CBD

CBD vape ผิดกฎหมายในประเทศไทย

การสูบกัญชายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงธุรกิจการใช้ และการนำเข้า/ส่งออกอุปกรณ์สูบกัญชาไฟฟ้า, ปากกา vape, ตลับ vape รวมถึงอุปกรณ์ที่มีน้ำยา CBD

แต่ในความเป็นจริง ก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะสูบ Vape ทั้งแบบ CBD และ THC ซึ่งมีจำหน่ายในร้านขายกัญชาบางแห่ง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และหากเจ้าหน้าที่จับได้ คุณก็จะต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมากเลยทีเดียว

การสูบกัญชาแบบ CBD Vape มีประโยชน์อย่างไร

วิธีการสูบ vaping CBD จะดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้มากขึ้น ซึ่งหมายความว่า ร่างกายจะสามารถใช้ CBD ได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ มันจึงกลายเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีฤทธิ์คงอยู่ของกัญชาที่ยาวนาน

นอกเหนือจากนี้ การใช้ Cannabidiol ยังมีประโยชน์อีกด้วย เพราะสาร CBD สามารถช่วยได้ในเรื่องต่อไปนี้:

• ให้ความผ่อนคลายและความสงบโดยไม่มีอาการมึนเมา
• บรรเทาอาการเจ็บปวดและการอักเสบ
• ช่วยในการนอนหลับ เมื่อใช้ในปริมาณสูง
• การรักษาโรคลมบ้าหมูและอาการชัก
• เพิ่มความตื่นตัว เมื่อใช้ปริมาณน้อย
• ลดความวิตกกังวลและความเครียด
• ปรับปรุงอารมณ์และความรู้สึกโดยทั่วไป ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
• มีผลการรักษาที่ดีขึ้นสำหรับภาวะสุขภาพจิตอื่น ๆ

ปริมาณที่ใช้ในการสูบ CBD vape

กฎโดยทั่วไปเกี่ยวกับปริมาณการใช้ CBD คือ การเริ่มใช้งานในปริมาณน้อย และค่อย ๆ เพิ่มอย่างช้า ๆ โดยอาจเริ่มต้นที่ปริมาณ CBD 10 มก. ต่อวัน และเมื่อเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นก็อาจเพิ่มเป็น 40-60 มก. ต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้แคนนาบินอยด์ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป และขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราการเผาผลาญในร่างกาย,  ความอดทน, ความไว และความรุนแรงของอาการ ดังนั้น ปริมาณ CBD ที่ต้องการใช้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด จึงอาจแตกต่างจากปริมาณของคนอื่น ๆ  การจะรู้ปริมาณที่เหมาะสมได้ ต้องมีการทดลอง เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสมนั่นเอง

สูบ CBD vape ปลอดภัยหรือไม่

การสูบไอระเหย (Vaping) กัญชาอาจเป็นทางเลือกที่ ‘ดีต่อสุขภาพ’ มากกว่าการสูบแบบเผาไหม้ ทั้งนี้ เนื่องจากการสูบแบบ Vaping จะไม่มีกระบวนการเผาไหม้เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงไม่ก่อให้เกิดสารก่อมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลเกี่ยวกับการสูบแบบ Vape เพราะโดยทั่วไปแล้วน้ำยา CBD ที่ใช้ในการสูบ มักจะจับคู่กับสารเคมีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และในบางครั้งก็อาจรวมถึงสารนิโคติน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงในตัวเอง สารเสริมเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพปอด, หัวใจ และระบบทางเดินอาหาร

งานวิจัยในปี 2023 โดย Roswell Park Comprehensive Cancer Center ได้ระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับการสูบ CBD vape โดยศึกษาเปรียบเทียบผลของการสูบ CBD vape กับนิโคติน ซึ่งพบว่า การสูบ CBD vape ในระยะสั้น สามารถทำให้เกิดความเสียหายของปอดที่รุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิดการอักเสบ และความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน

ในทำนองเดียวกัน วิตามินE acetate ซึ่งเป็นสารเติมแต่งทั่วไปที่ใช้ในน้ำยา vape ก็มีความเชื่อมโยงกับการระบาดของ EVALI (โรคปอดอักเสบรุนแรงจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า) ในปี 2019 แม้ว่าสารประกอบตัวนี้จะถูกเอาออกจากน้ำมัน vape แล้ว แต่ส่วนผสมอื่น ๆ ก็อาจเป็นอันตรายต่อระบบการไหลเวียนได้เช่นกัน

ผลิตภัณฑ์การสูบกัญชาแบบ Vape และบุหรี่ไฟฟ้า จึงไม่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน, คนหนุ่มสาว หรือแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ยังขาดหลักฐานสนับสนุนการสูบ CBD vape เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์อีกด้วย

โดยรวมแล้ว แม้ว่าผลกระทบระยะยาวที่เกิดจากการสูบกัญชาแบบ Vape ยังคงไม่แน่นอน โดยเฉพาะผลเสียที่เกิดขึ้นต่อปอด เนื่องจากยังคงเป็นเทคโนโลยีใหม่ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการสูบ CBD vape ก็ยังมีจำกัดด้วยเช่นกัน

ผลข้างเคียงของ CBD

นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากการสูบกัญชาแบบ Vape แล้ว การใช้ CBD ยังมาพร้อมกับผลข้างเคียงอื่น ๆ อีกด้วย แม้ว่า Cannabidiol จะมีผลเสียน้อย แต่ก็อาจทำให้เกิดสิ่งต่อไปนี้ได้:

• ปวดหัว
• คลื่นไส้
• อาการวิงเวียนศีรษะ
• อาการง่วงนอน
• ท้องเสีย
• เหนื่อยล้า
• ความอยากอาหารลดลง

CBD ยังสามารถทำปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ที่กำลังทานอยู่ได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ปฏิกิริยาระหว่างยา ซึ่งหมายความว่า Cannabidiol อาจส่งผลต่อผลของการทำงานของยาเหล่านี้ ทำให้ประสิทธิภาพของยาเปลี่ยนไป ในกรณีเช่นนี้ จึงควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง หากตัดสินใจจะใช้ CBD ในกิจวัตรประจำวันของคุณ

ทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจาก CBD vape

การสูบกัญชาแบบ Vape เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้น จึงไม่ใช่อุตสาหกรรมที่ได้รับการควบคุม ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ vape ทั้งหมดที่เห็นในตลาดไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำยา CBD vape นั้นผิดกฎหมาย

ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการตรวจสอบคุณภาพ เพื่อประเมินความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก CBD e-liquid อาจมีสารเติมแต่งที่เป็นอันตราย หรือไม่ได้ผลิตตามเกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมในประเทศตะวันตก  ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีราคาถูก ซึ่งหมายความว่า คุณภาพอาจลดลงอย่างมาก

ในกรณีเช่นนี้ อาจเป็นการดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จนกว่าจะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในตลาดที่ถูกกฎหมาย และมีการควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ยังต้องมีความรอบคอบในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้, มีชื่อเสียง และเปิดเผยรายการส่วนผสม

ในระหว่างนี้ ให้ลองใช้ทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่าได้ เช่น:

• น้ำมันและทิงเจอร์ CBD
• ดอก CBD
• กัมมี่ CBD
• ยาทาภายนอก CBD

บทสรุป

CBD Vape เป็นวิธีการรับสาร Cannabidiol ที่รวดเร็ว, สะดวก และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ CBD ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น บรรเทาความเจ็บปวด, ช่วยการนอนหลับให้ดีขึ้น, บรรเทาความเครียดให้น้อยลง และบรรเทาอาการชัก ซึ่งส่วนการสูบกัญชาแบบ Vape ยังคงอันตรายน้อยกว่าการสูบแบบเผาไหม้ เพราะไม่มีสารก่อมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าน้ำยา vape ซึ่งเป็นของเหลวที่ต้องใส่เข้าไปในอุปกรณ์ vape อาจมีสารเคมีและสารเติมแต่ง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อปอดและหัวใจเมื่อสูดดม ความปลอดภัยของน้ำยา vape เหล่านี้ ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา และงานวิจัยเบื้องต้นระบุว่า ละอองจากสารเคมีเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาการหายใจได้

สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้น คือ การสูบแบบ vape ยังคงผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งยังไม่มีกฎระเบียบด้านผลิตภัณฑ์ และอาจมี CBD vape ปลอม วางขายปะปนอยู่ในท้องตลาด

หากจะลองใช้ CBD Vape ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ, ถูกกฎหมาย และได้รับการตรวจสอบมาแล้วอย่างดี หรือสามารถลองใช้ผลิตภัณฑ์ CBD ที่ถูกกฎหมายอื่น ๆ เช่น น้ำมัน CBD และอาหารผสมกัญชาก่อนได้