Jack the Ripper
การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
Quick info
CBD
1%
THC
20%
Effects & Usage
Benefits
Jack the Ripper หรือที่รู้จักกันในชื่อ JTR เป็นผลงานที่เลื่องชื่อจากผู้เพาะพันธุ์ที่ Subcool’s The Dank และเป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่นฝั่ง Sativa ด้วยระดับ THC ที่สูงกว่า 20% ขึ้นไป โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20% JTR จึงถือเป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยเติมพลังความกระฉับกระเฉง และความสร้างสรรค์ให้แก่จิตใจได้เป็นอย่างดี
Jack the Ripper เป็นกัญชาสายพันธุ์ซาติวาที่ได้รับความนิยม และได้รับรางวัลซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสายเขียว
อาการเริ่มต้น
ผลที่ได้จาก Jack the Ripper นั้นรวดเร็ว แต่ควบคุมได้ โดยผู้ใช้ระบุว่าหลังการใช้จะมีความกระฉับกระเฉงเพิ่มขึ้นทันที สามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และอารมณ์ที่ดีขึ้นได้ ทำให้เกิดความชัดเจนในสมอง ทำให้มีสมาธิ ทำให้เป็นสายพันธุ์ที่ควรเลือกใช้สำหรับงานที่จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจที่เฉียบแหลม
ผลที่ได้รับทำให้ Jack the Ripper เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานในช่วงเวลากลางวัน ช่วยปรับบรรยากาศการทำงานให้ดีขึ้น สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ และสนุกสนานกับชีวิตได้อย่างเต็มที่
ผู้ที่ชื่นชอบกัญชาจำนวนมาก มักใช้ Jack the Ripper เพื่อการระดมความคิด, สร้างสรรค์งานศิลปะ และใช้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเข้าสังคม เพื่อสร้างบทสนทนาที่ลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ และสนุกสนานได้มากขึ้น
การใช้
สำหรับผู้ป่วย สามารถใช้ JTR เป็นกัญชาทางการแพทย์ได้ โดยสายพันธุ์ดังกล่าวนำเสนอแนวทางการดูแลสุขภาพที่หลากหลาย มีความสามารถในการต่อสู้กับความเครียด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเครียดเรื้อรังได้เป็นอย่างดี รวมถึงการใช้เป็นยาคลายความวิตกกังวลก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน โดย JTR จะช่วยระงับประสาทและทำให้จิตใจสงบ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรควิตกกังวล ที่ต้องการการบรรเทาด้วยวิธีทางธรรมชาติ
ผลข้างเคียง
แม้จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่ Jack the Ripper ก็มีคำเตือนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ใช้มือใหม่ที่ควรใช้งานอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการหวาดระแวง, หัวใจเต้นเร็ว หรือเกิดความวิตกกังวล เมื่อรับประทานในปริมาณมาก ในขณะที่ผู้ใช้บางรายอาจเกิดผลข้างเคียงทั่วไป เช่น มีอาการปากแห้ง และปวดศีรษะ ดังนั้น เราแนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอที่จะลดอาการปากและตาแห้งลง
Taste & Smell
JTR มีความงดงามทางสุนทรียศาสตร์ เพราะดอกของกัญชาสายพันธุ์นี้มีความหนาแน่นสูง และเปล่งประกายด้วยชั้นเคลือบไตรโครม ในขณะที่รสชาติมีความซับซ้อนของเลมอนที่เด่นชัด และอันเดอร์โทนหวานแบบผลไม้เขตร้อน ที่ถูกเสริมด้วยความสดชื่นของกลิ่นไม้สน
กลิ่นหอมฉุนของเลมอน ตามมาด้วยกลิ่นของน้ำมันและกลิ่นดิน ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสได้เป็นอย่างดี
ต้นกำเนิด
สายพันธุ์ต้นกำเนิดของ Jack the Ripper นั้นน่าเกรงขามพอ ๆ กับชื่อของมัน เพราะสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นการผสมพันธุ์จาก Subcool’s The Dank ที่สร้างขึ้นระหว่าง Jack’s Cleaner กับ Space Quee ทำให้โครงสร้างทางพันธุกรรมเป็นการหลอมรวมกัญชาหลาย ๆ สายพันธุ์ ได้แก่ Haze, Northern Lights, Shiva Skunk และ Romulan
มรดกอันหลากหลายนี้ มีส่วนช่วยให้ JTR มีรูปแบบการเติบโตที่แข็งแกร่ง และมีผลผลิตที่ยอดเยี่ยม
การเจริญเติบโต
การเพาะปลูก Jack the Ripper มีความท้าทายในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับผู้เพาะปลูกที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว เพราะสายพันธุ์ดังกล่าวจะเจริญเติบโตและออกดอกด้วยระบบช่วงแสง (Photoperiod Flowering) ซึ่งโดยทั่วไปจะเก็บเกี่ยวได้ภายใน 8-9 สัปดาห์
กัญชาสายพันธุ์นี้สามารถเติบโตได้ดี โดยเฉพาะเมื่อปลูกกลางแจ้ง ซึ่งสามารถแสดงพันธุกรรมของ Sativa ได้อย่างเต็มที่ ส่วนอัตราผลตอบแทนเมื่อปลูกในร่มจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย ดังนั้น การปรับพื้นที่ในการเพาะปลูก และกำหนดเงื่อนไขให้เหมาะสม จึงถือเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการเพาะปลูกกัญชาสายพันธุ์ Jack the Ripper