Chemdawg
การบริโภคกัญชาอาจทำให้เสพติดได้ ขอแนะนำให้ใช้อย่างมีความรับผิดชอบ เนื้อหาภายในหน้านี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หากคุณต้องการใช้กัญชาร่วมกับแผนเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน
Quick info
CBD
1%
THC
18%
Effects & Usage
Benefits
Chemdawg หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chemdog คือกัญชาสายพันธุ์ไฮบริดตัวแรงที่ไม่เหมาะสำหรับคนใจเสาะ อย่าถูกปริมาณ THC หลอก เพราะแม้ว่าจะมีปริมาณโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20% แต่กลับออกฤทธิ์ยาวนานและเข้มข้นได้อย่างน่าประหลาดใจ นอกจาก THC แล้ว ยังมี CBD ในปริมาณเล็กน้อยพร้อมกับ CBG ที่ระดับ 1%
ฤทธิ์ของ Chemdawg จะทำให้คุณอารมณ์ดี เคลิ้ม และผ่อนคลาย
ไม่มีใครทราบได้ว่าต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้มาจากที่ใด แต่ข้อมูลในตอนนี้ระบุว่ามีโอกาสเกิดจากซาติวาแลนด์เรซสองสายพันธุ์มาผสมกัน
อาการเริ่มต้น
สายพันธุ์นี้ออกฤทธิ์ได้ไวและรุนแรง คุณจะรู้สึกมีสมาธิมากขึ้นและไวต่อสิ่งรอบตัวทันทีหลังสูบ มีความเคลิ้มและมีอารมณ์ที่ดีขึ้น ทำให้คุณสามารถรับมือกับงานยากได้ทุกแบบ ความกังวลและสิ่งกวนใจต่าง ๆ จะเลือนหายไป สามารถทำงานตามที่วางแผนไว้ได้อย่างลื่นไหล
Chemdawg มีความสามารถในการเพิ่มการรับรู้ของประสาทสัมผัส ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ทำงานสายครีเอทีฟและคนที่ชอบปาร์ตี้บ่อย ๆ เนื่องจากสายพันธุ์นี้จะทำให้คุณสามารถเปิดบทสนทนาเพื่อนำไปสู่การพูดคุยที่ลึกซึ้งได้มากยิ่งขึ้น
ตัวกัญชาจะออกฤทธิ์ทางร่างกายมากขึ้นเมื่อใกล้สร่างเมา โดยร่างกายของคุณจะรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษจนทำให้นั่งติดโซฟาและลุกไปไหนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรสูบ Chemdawg ในช่วงกลางวันและเย็น
หากคุณชอบผลที่ได้จากสายพันธุ์นี้ คุณอาจจะชอบ White Widow ด้วยเช่นกัน White Widow.
การใช้งาน
Chemdawg ช่วยได้ทั้งกายและใจ ตัวอย่างเช่น การกระตุ้นพลังงานที่สมองจาก Chemdawg จะทำให้ภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลดีขึ้น รวมถึงช่วยจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้นอันเนื่องมาจากการผสมผสานอินดิกาเข้ากับลิโมนีน ซึ่งเป็นเทอร์ปีนส์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการช่วยทำให้ผ่อนคลาย
นอกจากนี้ ความสามารถในการต้านการอักเสบและอาการปวดจากแคริโอฟฟิลลีนจะทำให้คนที่มีอาการปวดเรื้อรังและไมเกรนรู้สึกดีขึ้น
ผลข้างเคียง
Chemdawg อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างที่พบได้บ่อยเมื่อใช้กัญชา เช่น ตาและปากแห้ง ผู้ใช้บางคนอาจรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้กัญชาเป็นครั้งแรกไม่ควรใช้ Chemdog
โปรดทราบว่าดอกกัญชาที่มี THC สูงอาจทำให้เกิดความเครียดและความหวาดระแวงมากขึ้นโดยเฉพาะกับคนที่มีประวัติเคยมีความผิดปกติทางจิต โปรดใช้กัญชาอย่างมีความรับผิดชอบและเริ่มต้นจากปริมาณน้อย ๆ ก่อน
Taste & Smell
ดอก Chemdawg มีขนาดปานกลางและไม่แน่นหนา สีเขียวเข้มแซมด้วยสีโทนม่วงสวยงาม ไตรโคมที่หนาแน่นทำให้ดูเหมือนเป็นน้ำค้างแข็ง จับแล้วจะเหนียวติดมือเนื่องจากมีปริมาณเรซินในระดับสูง
ดอกนี้มีกลิ่นของสมุนไพร เคมี และน้ำมันเครื่องที่หอมฉุน กลิ่นของน้ำมันเครื่องจะชวนให้คุณนึกถึงสายพันธุ์ลูกที่มีชื่อว่า Sour Diesel ที่โด่งดังไม่แพ้กัน
ลักษณะรสชาติของสายพันธุ์นี้ค่อนข้างซับซ้อน เมื่อสูดเข้าไปจะรู้สึกถึงรสเปรี้ยวซิตรัส แต่เมื่อหายใจออกจะได้รสคล้ายแอมโมเนียติดปาก
ต้นกำเนิด
แม้จะมีหลายคนที่อ้างว่าเป็นผู้ให้กำเนิดสายพันธุ์นี้ แต่เรายังคงไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าจริง ๆ แล้ว Chemdawg เริ่มต้นมาจากที่ใด ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดจากการผสมพันธุ์กันระหว่างซาติวาแลนด์เรซสองตัว ได้แก่ ไทยและเนปาล
สาเหตุที่ตั้งชื่อว่า “chem” เนื่องจากมีกลิ่นที่มีความสังเคราะ์เคมี และคำว่า “dawg” เป็นแสลงที่แปลว่า “สุนัข” ซึ่งมาจากความสามารถของสายพันธุ์นี้ที่จะทำให้คุณ “ลงไปกลิ้งเหมือนสุนัข”
สภาพการเจริญเติบโต
Chemdawg ปลูกได้ค่อนข้างยาก ต้องมีการตัดแต่งกิ่งในระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นเนื่องจากมีโอกาสโตได้สูงกว่า 1.5 ม. ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้เฉพาะกับผู้ปลูกที่มีประสบการณ์เท่านั้น สายพันธุ์นี้นิยมปลูกในที่ร่มเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราและน้ำค้าง นอกจากนี้ Chemdawg ยังส่งกลิ่นที่ฉุนเป็นพิเศษ ทำให้การปลูกในร่มสามารถควบคุมกลิ่นได้ดีกว่า แต่เราขอแนะนำให้ใช้วิธีการระบายอากาศที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน
คนที่เลือกปลูกสายพันธุ์นี้จะมีโอกาสได้รับผลิตในปริมาณที่สูง หากปลูกสำเร็จจะได้ผลผลิตอยู่ที่ 700-825 กรัมต่อตารางเมตรเมื่อปลูกในร่ม และสูงสุดถึง 900 กรัมต่อต้นเมื่อปลูกกลางแจ้ง
หากคุณต้องการสายพันธุ์อื่นที่มีลักษณะการเพาะปลูกที่คล้ายคลึงกัน โปรดลองพิจารณา Trainwreck