Black Widow

การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนที่โดดเด่น
Terpinolene, Limonene, Ocimene
Benefits icon
ช่วยในเรื่อง
ความเจ็บปวด, ความเครียด, ความผิดปกติทางอารมณ์
Growing icon
ความง่ายในการเจริญเติบโต
ง่าย
Time of day icon
ช่วงเวลาการใช้
บ่าย/หัวค่ำ

CBD

1%

Low

THC

21%

Very High
.
65%
.
35%
Sativa Indica

Effects & Usage

ช่างพูด
ผ่อนคลาย
จดจ่อมากขึ้น

Benefits

Black Widow เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่เด่นด้วย sativa ซึ่งเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์อย่างพิถีพิถันระหว่างสายพันธุ์ Sativa ของบราซิลกับสายพันธุ์ South Indian Indica ที่มีเรซินมาก ด้วยปริมาณ THC ตั้งแต่ 18% ถึง 28% นับเป็น THC ที่น่าทึ่ง เนื่องจากสามารถสร้างระดับการทำงานของสมองแบบไดนามิกที่กระตุ้นจิตใจและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน

อาการเริ่มต้น

ด้วยมีปริมาณ THC ที่สูงถึง 28% Black Widow ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วและทรงพลัง เช่นเดียวกับพิษที่มีชื่อเดียวกัน ภายในช่วงเวลาของการบริโภค สายพันธุ์นี้จะห่อหุ้มคุณด้วยคลื่นแห่งความกระปรี้กระเปร่าทางจิตใจ โดยอาศัยสารเทอร์ปิโนลีนที่กระตุ้น สิ่งนี้จะลดระดับลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นความรู้สึกสบายและมีประสิทธิภาพ สายพันธุ์นี้ช่วยขจัดความเครียดและอุปสรรคทางจิตใจได้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้คุณมีสมาธิดีขึ้นในทันที ดังนั้น Black Widow จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องของความสมดุล โดยจะเริ่มสังเกตเห็นได้ว่าร่างกายของคุณผ่อนคลายลงอย่างมาก หากใช้ Black Widow ในปริมาณมาก หรือเจอชุดที่ทรงพลังเป็นพิเศษ คุณอาจพบว่าตัวเองนอนอยู่บนโซฟา ผ่อนคลายเกินกว่าจะสนใจอะไร ด้วยเหตุผลนี้ จึงควรเก็บไว้ใช้ในช่วงบ่ายหรือหัวค่ำ ในฐานะที่เป็นสายพันธุ์ที่คลอบคลุมและหลากหลาย Black Widow จึงเหมาะกับทั้งตัวคุณเองและใช้มันไปพร้อมกับผู้อื่น

ลอง Jack Herer หรือ Durban Poison สำหรับสารเทอร์ปิโนลีนที่มากขึ้น กระตุ้นความคิด หรือสำรวจรายการสายพันธุ์กัญชา THC ของเราสำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม

การใช้

ด้วยคุณสมบัติที่สมดุลของ Black Widow ทำให้ถูกใช้เป็นการรักษาที่ยอดเยี่ยมสำหรับอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ด้วยปริมาณ CBG และ CBD จำนวนมาก (ที่ 1%) สายพันธุ์นี้สามารถช่วยลดความเครียดและความเจ็บปวดได้ อาจเป็นประโยชน์สำหรับอาการอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน อาทิ กล้ามเนื้อกระตุก, ปวดศีรษะ, ปวดเรื้อรัง และโรคข้ออักเสบ เป็นต้น

ภาวะซึมเศร้า, ความเมื่อยล้าทางจิตใจ และอาการสมาธิสั้น อาจบรรเทาลงได้ด้วย terpenes ที่ช่วยยกระดับ ได้แก่ limonene และ ocimene โดยดูตามรายงาน หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่มีอาการอย่าง PTSD ก็อาจรู้สึกสบายใจขึ้นได้เมื่อใช้ Black Widow

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงทั่วไปของการบริโภค Black Widow ได้แก่ อาการปากแห้งและตาแห้ง แนะนำให้ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ และสายพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับมือใหม่หรือผู้ที่มีความทนทานต่อ THC ต่ำ เนื่องจากอาจมีอาการหวาดระแวงหรือวิตกกังวล ดังนั้นควรเริ่มต้นด้วยปริมาณที่น้อยก่อน และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการใช้ตามความจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการที่ไม่พึงประสงค์

Taste & Smell

หวาน
กลิ่นไม้สน
กลิ่นเหม็น

Black Widow มีสีสันที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยเฉดสีม่วงเข้มเข้มตัดกับสีเขียว มาพร้อมเกสรสีส้มและคริสตัล Trichome ระยิบระยับเล็ก ๆ พร้อมทั้งยังมีกลิ่นหอม ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างกลิ่นหอมหวาน กลิ่นฉุนกับกลิ่นไม้สน คุณจะได้ลิ้มรสสกังก์และไม้สนทันที ที่คุณพ่นควันออกคำแรก คาดว่าจะมีกลิ่นผลไม้และกลิ่นถั่วแทรกอยู่ โดยรวมแล้วจะได้ควันที่นุ่มนวลและน่ารื่นรมย์

Cannabis sativa grown outdoor

ต้นกำเนิด

Black Widow เป็นผลงานการสร้างของ Shantibaba ในตำนาน และยังเป็นผู้รับผิดชอบ White Widow พี่น้องที่มีชื่อเสียงมากกว่าอีกด้วย ตำนานเล่าว่าเขาไม่สามารถใช้ชื่อ White Widow ได้อีกต่อไปหลังจากที่เขาออกจาก Amsterdam Green House Seeds ดังนั้น เขาจึงสร้างสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่โดยใช้พ่อแม่เดียวกัน สองสายพันธุ์ ได้แก่ South Indian indica และ Brazilian sativa

เป็นไปได้ว่า Black Widow ที่เรารู้จักในปัจจุบันเป็นเพียงฟีโนไทป์ที่เข้มกว่าพี่สาวของมัน

การเจริญเติบโต

Black Widow เป็นสายพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ปลูกในครั้งแรก เนื่องจากอาศัยการบำรุงรักษาน้อย ทนต่อศัตรูพืช โรคราน้ำค้าง และเชื้อรา เติบโตได้ในทุกสภาพแวดล้อม ตราบใดที่อยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึง ฝนอาจทำให้ผลผลิตลดลง ดังนั้นจึงควรให้ที่กำบังแก่ต้นกัญชาด้วยเช่นกัน

ต้นกัญชาสามารถสูงได้เฉลี่ยประมาณ 1 เมตรในที่ร่ม แต่อาจสูงถึง 2 เมตรหากปลูกกลางแจ้ง ภายใน 8 ถึง 9 สัปดาห์ คุณสามารถเก็บเกี่ยวได้ 350 ถึง 450 กรัม สำหรับแปลงปลูกในร่มและ 300 ถึง 400 กรัมต่อต้น หากปลูกกลางแจ้ง