MK Ultra

การบริโภคกัญชาอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ และไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคหรือมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณต้องการที่จะบริโภคกัญชา เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

Quick info

Terpenes icon
เทอร์ปีนที่โดดเด่น
Myrcene, Caryophyllene, Camphene
Benefits icon
ช่วยในเรื่อง
ปวดเมื่อย, ความเครียด, นอนไม่หลับ
Growing icon
ความง่ายในการเจริญเติบโต
ง่าย
Time of day icon
ช่วงเวลาการใช้
หัวค่ำ

CBD

1%

Low

THC

19%

High
.
40%
.
60%
Sativa Indica

Effects & Usage

ผ่อนคลาย
ง่วงนอน
Upliftingเบิกบานขึ้น

Benefits

ขอต้อนรับเข้าสู่โลกที่น่าหลงใหลของ MK Ultra สายพันธุ์ที่มอบการเดินทางที่สะกดจิตและเกือบทำให้เคลิบเคลิ้ม ลูกผสมที่เอนเอียงไปทาง indica นี้เกิดจากการผสมสายพันธุ์ระหว่าง OG Kush และ G13 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะที่ทรงพลังสำหรับจิตใจและร่างกาย ด้วยระดับ THC ตั้งแต่ 18 – 25% สายพันธุ์ MK Ultra สร้างความสมดุลที่ไม่มีใครเทียบได้ทั้งในด้านความรู้สึกสบายและความสงบทางร่างกาย

อาการเริ่มต้น

สายพันธุ์ MK Ultra มีฤทธิ์ที่ทรงพลังมาก แม้ผู้ใช้ที่เคยมีประสบการณ์มาแล้วก็ควรใช้อย่างระวัง คุณจะรู้สึกถึงผลของมันเกือบจะในทันที เริ่มจากอาการสับสน แต่อิ่มอกอิ่มใจ จิตใจของคุณจะรู้สึกหนักอึ้งและเชื่องช้า แต่มันจะเป็นความรู้สึกที่น่ายินดี เมื่อคุณได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างสงบ แม้ว่าจะเป็นลูกผสมที่มีความลงตัวพอสมควร แต่ผลของ indica ในสายพันธุ์นี้ก็เข้าสู่จุดศูนย์กลางอย่างรวดเร็ว ทำให้เปลือกตาและร่างกายของคุณหนักอึ้งมาก ในไม่ช้าคุณจะจบลงด้วยการทอดกายนอนนิ่งบนโซฟาโดยไม่สนใจโลก การออกฤทธิ์แบบลึกลับนี้ทำให้คุณเห็นคุณค่าของทุกสิ่งรอบตัว แต่คุณจะไม่มีแรงผลักดันที่จะทำอะไรได้ตามความคิดของคุณมากนัก ดังนั้น MK Ultra จะเหมาะและใช้ได้ดีที่สุดในเวลาหัวค่ำ ช่วยให้ผ่อนคลายถึงขีดสุดและง่ายดาย

หากคุณชอบความเงียบสงบ ลองใช้ Granddaddy Purple หรือ Northern Lights ด้วยเช่นกัน หรือหาดูสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มเติมที่ดีและเหมาะที่สุดกับคุณได้ที่นี่

การใช้

สายพันธุ์ MK Ultra สามารถใช้งานได้ในอาการต่าง ๆ ด้วยสรรพคุณของไมร์ซีน เทอร์ปีนคลายเครียดที่มีประสิทธิภาพนี้สามารถบรรเทาความเครียดดีได้แม้ในคนที่มีความเครียดมาก หรือผู้ที่เผชิญกับความวิตกกังวล, ความผิดปกติทางอารมณ์ รวมถึงอาการนอนไม่หลับ นอกจากนี้ การปรับอารมณ์ให้ร่าเริงขึ้นจะช่วยขจัดความหดหู่ชั่วคราวได้ ประการสุดท้าย สายพันธุ์นี้ยังมีประโยชน์ในการรักษาอาการปวด โดยทำงานร่วมกับแคมฟีนที่ต้านการอักเสบและคาริโอฟิลลีน เทอร์ปีน ทำให้สายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการรักษาอาการต่าง ๆ เช่น อาการปวดเรื้อรัง, ข้ออักเสบ, ปวดกล้ามเนื้อ, ปวดประจำเดือน และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของ MK Ultra คือ ปากแห้งและตาแห้ง เนื่องจากความแรงของมัน ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจทำให้เกิดความหวาดระแวงและวิตกกังวลในบุคคลที่ร่างกายไวต่อสารนี้ ควบคุมการบริโภคของคุณทุกครั้ง เพื่อสังเกตความอดทนของคุณ

การใช้ MK Ultra ในช่วงเช้าตรู่อาจทำให้ง่วงนอนได้ ดังนั้นควรใช้ในช่วงเย็นจะเหมาะที่สุด

Taste & Smell

กลิ่นไม้สน
กลิ่นไม้
กลิ่นดิน

ดอกของ MK Ultra มีโครงสร้างที่หนาแน่น โดดเด่นด้วยเฉดสีเขียวเข้มที่ประดับด้วยไทรโครมและขนสีส้มสดใส กลิ่นของสายพันธุ์นี้ค่อนข้างแปลก โดยมีกลิ่นของพลาสติกที่ไหม้เกรียมและมีกลิ่นหอมของน้ำมันดีเซลผสมกับความหวานและกลิ่นซิตรัส สิ่งนี้ทำให้เกิดการผสมผสานที่ฉุนมากและมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ ดังนั้นหากคุณกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ ให้มองหาที่อื่น

สำหรับรสชาติของมันจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรสชาติของต้นสน, กลิ่นไม้ และกลิ่นดิน ซึ่งชวนให้นึกถึงใบกัญชาทั่วไป

Cannabis sativa grown outdoor

ต้นกำเนิด

MK Ultra ได้รับการพัฒนาโดย T.H. Seeds ในอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของโลกกัญชา เป็นการผสานกันระหว่าง OG Kush และ G13 สายพันธุ์นี้สืบทอดพลังในตำนานจากพ่อแม่ของมัน และด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อได้รับการตั้งชื่อตามโครงการที่มีผลควบคุมด้านจิตใจที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนักของ CIA ด้วยชื่อและผลอันทรงพลังนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สายพันธุ์นี้จะได้รับการยอมรับและได้รับรางวัล Indica ที่ 1 ใน High Times Cannabis Cup ในปี 2003 และอันดับที่ 2 ในปีต่อมา

การเจริญเติบโต

MK Ultra เป็นสายพันธุ์ที่เติบโตค่อนข้างง่าย ชอบอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและมีแดดจัด ในทางทฤษฎีสามารถปลูกได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตสูงสุด แนะนำให้ปลูกในที่ร่ม ต้นของมันมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด สูงประมาณ 100-120 ซม. จึงเหมาะกับพื้นที่ที่จำกัด ใช้เวลาออกดอก 8-9 สัปดาห์ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 340 กรัมต่อตารางเมตรในที่ร่ม และ 170 กรัมต่อต้นหากปลูกกลางแจ้ง